เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หนุ่มใหญ่เมืองคอนรายหนึ่งได้เพาะขยายพันธุ์นักปรอทหัวโขน หรือ “นกกรงหัวจุก” จากปกติธรรมดาจนกลายเป็นนกกรงหัวจุกเผือกจำหน่ายในราคาตัวละ 40,000- 500,000 บาท สร้างรายได้ให้กับครอบครัวในช่วงปี 2564 แล่วรวมกว่า 1 ล้านบาท จึงเดินทางไปตรวจสอบและเยี่ยมฟาร์มเพาะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุก ชื่อ “ANK ฟาร์ม” หรือ”ฟาร์มนกสายบันเทิง” ตั้งอยู่เลขที่ 8 ถนนพระคลัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยได้พบนายวันทยะ อรัญญเวศ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งดัดแผลงพื้นที่วส่างรอบ ๆ บ้านทำฟาร์มเพาะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุก โดยมีนกกรงหัวจุกสายพันธุ์ธรรมดาทั่วไปที่นิยมเลี้ยงและแข่งขันในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ แต่ที่เป็นไฮไลท์น่าสนใจคือมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์นกกรงหัวจุกเผือกที่ผ่านการพันาสายพันธุ์มา 3-4 ชั้นจนสายพันธุ์นิ่งเป็นของตัวเอง โดยมีลูกนกกรงหัวจุกเผือกในฟาร์มอายุตั้งแต่เพิ่งฟักออกจากขาถึง 2 ปีนับร้อยตัว โดยมีลูกสาวของนายวันทยะ 2 คนช่วยบิดาเลี้ยงนกและคอยป้อนอาหารและน้ำให้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ในขณะที่ภายในบ้านหลังใหญ่มีกรงนกกรงหัวจุกที่แกะสลักลวดลายต่าง ๆ ประดับประดามุก และเครื่องประดับมีค่าอื่น ๆ แขวนและวางเรียงรายเต็มบ้านนับร้อยลูก กรงบางลูกมีอายุมากถึงเกือบ 40 ปี ราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลายหลักแสนบาท นอกจากนี้ยังมีเฉพาะหัวกรงนกที่แกะสลักเป็นลวดลายหลากหลายประดับประดามุกและเครื่องประดับมีค่าอื่น ๆ ราคาตั้งแต่ 15,000 -150,000 บาท
นายวันทยะ อรัญญเวศ กล่าวว่า บิดาของตนเป็นคนชอบเลี้ยงนกปรอทหัวโขน หรือ “กรงหัวจุก”มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ส่งแข่งขันตามสนามเล็ก สนามน้อยจนถึงสนามใหญ่ได้รางวัลเป็นถ้วยรางวัลและสิ่งของมีค่าอื่น ๆ จำนวนมาก ทำให้ตนมีความรักและผูกพันกับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกมาตลอด ถือว่าตนเติบโตมากับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกก็ว่าได้ และได้รับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกมาจากพ่อ โดยในปัจจุบันยังมีกรงนกของพ่อที่ได้รับรรางวัลการประกวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเมื่อปี 2529 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน ซึ่งเมื่อก่อนการเลี้ยงนกปรอทหัวโจนหรือนกกรงหัวจุกสามารถจับนกตามป่า ตามธรรมชาติ มาเลี้ยงได้อย่างอิสระเสรี ซึ่งในตอนแรกตนเลี้ยงนกกรงหัวจุกด้วยใจรักไม่ได้มุ่งในเรื่องธุรกิจหรือหวังผลกำไร แต่ต่อมาทางราชการๆได้ประกาศให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองการเลี้ยงนกกรงหัวจุกจะต้องขออนุญาติจาก สำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งการเพาะพันธุ์ก็ต้องขออนุญาตเช่นเดียวกัน “ตนขออนุญาติทำฟาร์มเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกปีนี้ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 และใช้เวลานานเกือบ 4 ปีในการเพาะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุก โดยศึกษาดูว่ามีนกดี สายพันธุ์นิ่ง ๆ ก็ซื้อเข้ามาในฟาร์มทำการผสมเองจนนกในรุ่นลูกรุ่นหลานสายพันธุ์นิ่งเราก็นำมาพัฒนาสายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เฉพาะของเราเองแล้ว
สำหรับลูกนกกรงเผือกเพิ่งออกจากไข่มีราคาตั้งแต่ตัวละ 40,000 -100,000 บาท ขึ้นอยู่กับเกรดและสายพันธุ์ ในปี 2564 ตนสามารถเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกเผือกและจำหน่ายออกไปแล้วกว่า 100 ตัวได้เงินมากว่า 1 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะเพาะขายแต่เมื่อเพาะได้จำนวนมาก ๆ ก็ดีที่สามารถขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการแพรืระบาดของไวรัสโควิด-19” สำหรับไข่นกแม่นกจะใช้เวลาฟัก 12 วันหลังฟักออกจากไข่ปล่อยหากให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์นกป้อนอาหาร 4-5 วันแล้วนำออกมาป้อนอาหารเลี้ยงดูต่อก็มีโอกาสรอด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากเรานำออกมาเลี้ยงดูป้อนอาหารตั้งแต่วันแรกที่ออกจากไข่โอกาสรอดก็ห้าสิบห้าสิบ โดยทั่วไปราคาลูกนกระหว่างตัวผู้กับตัวเมียราคาตัวใยจะถูกกว่าเล็กน้อย แต่ฟาร์มของตนราคาจะเท่ากันตัวละ 40,000 -150,000 บาทขึ้นอยู่กับเกรดของลูกนกรวมทั้งระยะเวลาที่เราเลี้ยง และแต่ละฟาร์มที่เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกเผือก หริอนกแฟนซี” จะจำหน่ายในราคาไม่เท่ากัน โดยในช่วงนี้ฟาร์มของตนหากเพาะได้เป็นตัวเมียตนจะไม่ขายจะเก็บไว้เป็นแม่พันธุ์โดยจะซื้อตัวผู้ดี ๆ จากฟาร์มอื่น ๆ มาไขว้ผสมพันธุ์ ส่วนการตรวจเช็คเพศของลูกนกจะใช้วิธีถอนขนส่งตรวจเช็คจากแลปที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอกจากเพาะขยายบพันธุ์นกกรงแฟนซีขายมีรายได้ดีแล้วสิ่งที่สำคัญที่ได้อีกอย่างหนึ่งคือลูกสาว 2 คนที่ช่วยพ่อเลี้ยงนกทั้งป้อนอาหาร น้ำและเขี่ยขี้นกทิ้ง ส่งผลให้ลูกสาวตนมีสมาธิ มีความเมตตา อ่อนโยน จิตใจเขาจะนิ่งขึ้นเพราะเขาโตไปพร้อม ๆ กับสัตว์ที่เราเลี้ยง แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงมากในการเลี้ยงและหากเพาะแล้วขายไม่ได้ตนก็ไม่ได้สนใจจะเลี้ยงมันต่อทั้งหมด โดยส่วนตัวผมถือว่าผมเลี้ยงนกกรงหัวจุกโดยไม่มีต้นทุน เพราะผมเริ่มต้นการเลี้ยงมาจากความรัก ความผูกพันธุ์
นายวันทยะ อรัญญเวศ นกกรงเผือกในวงการเขาเรียกว่า “นกแฟนซี” ซึ่งมีหลายแบบ หลายสี เช่น นกเผือก แค่ในส่วนนี้ก็มีความเป็นพิเศษแตกต่างกัน เช่น สีขาวเผือกทั้งตัวแต่ตาดำ หูแดงเหมือนนกทั่ว ๆ ไป ในฟาร์มของตนที่เพาะได้ลูกนกที่พิเศษสุด ๆ คือสีขาวเผือก หูแดง ตาสีทับทิม นกแบบนี้จะมีราคาสูงขึ้นเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีสีเทา และสีโอวัลติน ราคาสูงเช่นเดียวกัน ซึ่งนกกรงหัวจุกในฟาร์มตนมีตัวที่ราคาสูงสุดประมาณ 5-6 แสนบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันจะไม่ค่อยมีสนามแข่งเพราะเขาไม่อนุญาติให้ลงแข่งในสานามทั่ว ๆ ไป เพราะเมื่อนำไปแขวนที่ราวร่วมกับนกปกติตัวอื่น ๆ จะทำให้นกตัวอื่น ๆ ไม่กล้าส่งเสียงร้อง ตนจึงมีแนวคิดที่จะร่วมกับเพื่อน ๆ ที่ชอบเลี้ยงเพาะขยายพันธุ์นกแฟนซี มาเปิดสนาม “นกแฟนซี” ขึ้นเป็นการเฉพาะ และมีเป้าหมายที่จะซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ดินว่างติดจากบ้านของตนออกไปอีกประมาณ 100 ตารางวา เพื่อพัฒนาฟาร์มนกเผือก นกแฟนซี ให้เป็นสวนนกย่อม ๆ เปิดให้เป็นแหล่งศึกษาเรียน็ของเด็กและเยาวชนรวมทั้งคนทั่ว ๆ ไป .
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
