เวลา 14.00 น. ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ สุทธิพิพัฒนกุล รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดภายในวัดดัง ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมกู้ชีพ เพี้ยวเยี้ยงไท้ ศรีราชา
ชลบุรี ภาพวินาทีหนุ่มรับจองพระคลั่งใช้อาวุธมีดจ้วงเพื่อนที่มาด้วยกันเสียชีวิตคาที่ เนื่องจากคิดว่าเพื่อนเป็นปอบที่วัดดังแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชานั่งรถมาจากหัวลำโพง เพื่อมาจองพระเครื่องวัดดังชลบุรี 1 คนในกลุ่มเกิดอาการหลอนแทงเพื่อนหญิงดับคาวัด ส่วนผู้ก่อเหตุรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
ข่าวที่น่าสนใจ
ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่งในตำบลบางพระพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้หญิง ไม่ทราบชื่อและนามสกุล สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขาสั่นสีบอนเทา โดยลักษณะนอนหงายหน้าใกล้กันพบมีดที่ก่อเหตุวางไว้บริเวณหน้าอกของผู้เสียชีวิต โดยลักษณะผู้เสียชีวิตถูกมีดแทงที่บริเวณลำคอและบริเวณหน้าอกและบริเวณลำตัว ของผู้เสียชีวิต ยังไม่ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ทราบเพียงชื่อผู้ก่อเหตุคือ นาย อนุสรณ์ สายพิน อายุ 30 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ จากการสอบถามนายอนุสรณ์ สายพิน อายุ30 ปี คนก่อเหตุได้ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองและเพื่อนประมาณ15-20คนนั่งรถมาจากหัวลำโพง เพื่อมาจองพระเครื่อง ในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จนกระทั่ง ตนเองได้เสร็จการจองพระเรียบร้อยแล้วนั้นได้ลงมานั่งตรงบริเวณบันได ก่อนลงมือก่อเหตุนั้น ตนเป็นตำรวจแอลเอ ก่อนลงมือก่อเหตุโดยใช้อาวุธมีดแทงเข้าบริเวณลำคอและหน้าอกและส่วนลำตัวของผู้เสียชีวิตเนื่องจากผู้ชีวิตนั้นได้เป็นปอบแล้วฆ่าคนมาหลายรายแล้วตนเองเลยทำการวิสามัญผู้เสียชีวิต เองเลย ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นก็ยังอ้างกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจว่าตนเองนั้นเป็นตำรวจมาจาก LA มาสืบคดีเรื่องปอบ
จากการสอบถามผู้เห็นการณ์นาย อำนาจ วัฒนกุศกุล 45 ปี คนเห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองพบกลุ่มนี้มาตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็นโดยมาประมาณ 15-20 คน โดยมีรถมาส่งที่บริเวณวัด เพื่อมาจองวัตถุมงคล โดยมีนายหน้าจ้างมาคนละ 700 บาทเพื่อให้มาจองวัตถุมงคลในวัดดังกล่าว จนกระทั่งเห็นชายคนดังกล่าวคุ้มคลั่งเอามีดแทงเพื่อนตนเอง ที่บริเวณบันไดทางขึ้นวัดเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสายพิณ ผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวนเพิ่มและดำเนินคดีตามกฎหมาย และมอบศพหญิงดังกล่าวให้หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้ง ก่อนจะติดตามหาญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-