เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้ว่าสวนกุหลาบผู้ผลิตกุหลาบต้น กระถางและกุหลาบตัดดอกจะมียอดขายพุ่งสูงในปีนี้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่คือต่างจังหวัดรวมถึงตลาดต่างประเทศ แต่เมือได้เดินทางไปที่ตลาดแลง(บานติ้ว) ตลาดเทศบาลเมืองเลย ถนนเจริญรัฐ ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย เพื่อดูการขายดอกกุหลาบเนื่องในวันที่ 14 กุมภาพันธ์” วันวาเลนไทน์” พบว่าราคาดอกกุหลาบไม่ขึ้นแต่ลูกค้าและยอดขายลดลงกว่า 50% จากพิษทางเศรษฐกิจยังทรุด รายได้ลด ค่าจ่ายสูง
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้านแม่ค้าที่ตลาดแลงบ้านติ้ว ได้แต่โอดครวญว่า ยอดลดลงมากปีนี้กว่าร้อยละ 50 จากปีก่อนแม้จะโควิดรุนแรงก็ยังดีกว่าปีนี้ ทั้งยอดขายและลูกค้าหด ส่วนราคากุหลาบก็คงเหมือนปีก่อน ๆ โดยเราขายในราคาตั้งแต่ 20 บาทถึง 500 บาท แต่ละชนิด ประเภทการจัดการห่อรูปสีสัน ช่อต่างๆให้สวยงาม ซึ่ง ดอกสีแดงและสีชมพูก็ยังเป็นที่นิยมของลูกค้า
แม่ค้ายังกล่าวอีกว่า ว่าเลนไทน์ปี 2566 ต้องประสบกับการขาดทุน เพราะบรรยากาศที่เงียบเหงามากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา หรือผิดปกติทีเดียว แม้เป็นช่วงวันปกตินักเรียน นักศึกษาเยนก็ตาม ด้านของสาเหตุนั้นอันดับหนึ่งเลยคือภาวะทางเศรษฐกิจที่แย่มาก ๆราคาสินค้าที่จำเป็นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าครองชีพค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูง ประกอบกับการเริ่มคลี่คลายจากโรคโควิดประชาชนจึงประหยัดและรีบหาเงินรีบทำงานเพื่อให้อะไรฟื้นคืนมา ต่อมาคือโลกโซเชียลที่ทันสมัยมาก ประชาชน คนหนุ่ม-สาว วันรุ่นเมินการมอบความรักทางสื่อดอกกุหลาบแทนความรักกันไปแล้ว หวนไปใช้มอบความรักทางเฟรสบุ๊ค และทางไลน์แทนเพราะประหยัดเงิน และเลือกเอาดอก เอารูปสวยงามอย่างไรก็ได้มอบให้กัน และการมอบ การบอกรักกันตามร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวตลอดจนสถานบันเทิง ผับบาร์แทนในยุคปัจจุบัน เป็นที่นิยมสูงมาก.
ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
