โซเชียลย้อนขุดพฤติกรรมเด็ก 14 ผิด ม.112 เหิมจาบจ้วงเบื้องสูง

โซเชียลย้อนขุดพฤติกรรมเด็ก 14 ผิด ม.112 เหิมจาบจ้วงเบื้องสูง

ขณะนี้บรรดาแรวร่วมม็อบ 3 นิ้ว อาทิ ประชาไท ,นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล และกลุ่มทะลุแก๊ซ นำประเด็น สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ ออกหมายเรียกเด็กหญิง อายุ 14 ปี ฉายา “สหายนอนน้อย” นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีมาตรา 112 ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ หลังถูกนายอานนท์ กลิ่นแก้ว กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. แจ้งความเอาผิดจากการร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 บริเวณเสาชิงช้า

จากการตรวจสอบพบว่า วันดังกล่าวแนวร่วมม็อบ 3 นิ้วได้จัดกิจกรรม “13 ตุลา หวังว่าสายฝนจะพาล่องลอยไป” ซึ่งเป็นการจงใจจัดให้ตรงกับวันที่พสกนิกรทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตในหลวง รัชกาลที่ 9

โดยรายละเอียดของกิจกรรม “13 ตุลา หวังว่าสายฝนจะพาล่องลอยไป” ผู้ชุมนุมได้มีการเขียนข้อความบนป้ายผ้า และพื้นของบริเวณเสาชิงช้า รณรงค์ให้มีปล่อยนักโทษการเมืองและยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งวันนั้นเด็กหญิง อายุ 14 ปี สวมเสื้อสีแดง กระโปรงแดง ใส่หมวกดำ ได้ร่วมเขียนข้อความด้วย อย่างไรก็ตามข้อความที่เขียนกลับเต็มด้วยข้อความจาบจ้วงอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง จนไม่สามารถนำมาเผยแร่ต่อได้ โดยข้อความที่เขียนจาบจ้วงเฉพาะในหลวงรัชกาลที่ 10 และ ในหลวง รัชกาลที่ 9 นอกจากนี้เด็กหญิงวัย 14 ปียังกล่าวปราศรัยให้ร้ายสถาบันอีกด้วย

ซึ่งพฤติกรรมของเด็กหญิง 14 ปี ต้องบอกว่าไม่แปลกใจที่จะถูกแจ้งความเอาผิด แต่แนวร่วมม็อบ 3 นิ้วรวมถึงนางอมรัตน์กลับปกป้อง และเลือกที่จะนำเสนอเพียงด้านเดียว โดยการนำประเด็นอายุ 14 ปี มาปั่นกระแสดราม่า เพื่อให้สังคมเข้าใจผิด อีกทั้งนางอมรัตน์ยังอ้างว่า การที่เด็กหญิง 14 ปี ถูกแจ้งความดำเนินคดี เป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามเมื่อไปตรวจสอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญที่ประเทศต่างๆทั่วโลกทำร่วมกัน เพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความคุ้มครองสิทธิเด็ก พบว่า มีทั้งหมด 54 ข้อ โดยนิยมคำว่าเด็กคือ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และจาการตรวจสอบทั้ง 54 ข้อ ไม่ได้เขียนว่าห้ามรัฐเอาผิดเด็กที่กระทำความผิดกฏหมาย หรือเขียนว่าเด็กจะทำผิดกฏหมายหรือไปละเมิดสิทธิผู้อื่นอย่างไรก็ได้ โดยข้อที่ 40 ระบุว่า เด็กที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายจ ะต้องไม่ถูกละเมิดต่อชีวิต ถูกทรมาน ทำทารุณ จำคุกตลอดชีวิต หรือติกคุกเหมือนกับผู้ใหญ่ สถานพินิจต้องเป็นตัวเลือกสุดท้าย และถ้าจะต้องอยู่ ก็ต้องเป็นเวลาสั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เด็กที่อยู่ในสถานพินิจควรได้รับความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และสามารถติดต่อกับครอบครัวได้

ส่วนข้อ 13 เด็กมีสิทธิแสดงความคิดเห็น และความรู้สึก และสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้มา ไม่ว่าจะเป็นด้วยการพูดคุย วาดรูป การเขียน หรือด้วยวิธีการใดก็ตามที่ไม่เป็นผลร้ายกับผู้อื่นในสังคม

นอกจากนี้ยังมีความเห็นจากนายอัษฎางค์ ยมนาค หรือ เอ็ดดี้ ที่ตอบโต้นางอมรัตน์ในประเด็นละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยนายอัษฎางค์ ได้ยกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคกันอย่างสมบูรณ์ แต่การใช้สิทธิและเสรีภาพของตนต้อง
1. ไม่ไปกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
2. ไม่ไปละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
3. ไม่ไปกระทบความสงบเรียบร้อยของประชาชน
4. ไม่ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน
5. ไม่กระทบต่อสุขภาพ(หรือก็คือชีวิต)ของคนอื่น

ดังนั้นการอ้างสิทธิของตน เพื่อละเมิดสิทธิผู้อื่น จะทำไม่ได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นเยาวชนหรือประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯอนุทิน" ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้านศูนย์พักพิง "บุรีรัมย์-สุรินทร์" ลั่น "ทนได้ก็ทนไป" กัมพูชาไม่เจรจา ไม่รับผิดชอบผิดละเมิด
ปู่ฤาษีพรหมเมศศักดิ์สิทธิ์ลูกศิษย์นำฟักทอง 999 ลูกแก้บนไม่พลาดส่องเลขเทวะบันดาลอ่างน้ำมนต์
อุตรดิตถ์ ทำพิธีกรรมทำขวัญข้าว สายมูส่องเลขเด็ด
เปิด “ราไวย์ คลินิกเวชกรรม” รองรับนักท่องเที่ยวช่วง High Season
พรรคพลังประชารัฐจัดประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ภายใต้การสังเกตการณ์ของ กกต.
เมืองคนดีจัดพิธีทำบุญเมืองใหญ่ ตักบาตรพระ 1,110 รูป ฉลอง 110 ปี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​