นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของกระทรวงศึกษาธิการ ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน โดยจ่ายผ่านสถานศึกษาและให้สถานศึกษาจ่ายตรงให้แก่นักเรียนนักศึกษาหรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี ในรูปแบบของเงินสดนั้น ขณะนี้สำนักงานงบประมาณอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและจะส่งเรื่องมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ภายในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ จากนั้นกระทรวงศึกษาธิการ จะตรวจสอบข้อมูล เพื่อจัดทำขั้นตอนการจัดสรรเงินงบประมาณลงไปที่สถานศึกษาภายในวันที่ 30 สิงหาคม ดังนั้นในวันที่ 31 สิงหาคม เงินเยียวยาจำนวน 2,000 บาท จะส่งถึงนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองทันที
สำหรับผู้ได้รับเงินเยียวยาในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ มีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งมีวงเงินรวมประมาณ 21,600 ล้านบาท ทั้งนี้สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการในโครงการดังกล่าวก็เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนในสภาวะวิกฤตโควิด-19 โดยเงินเยียวยาดังกล่าวหากนักเรียนกลุ่มใดที่เรียนในรูปแบบ Online สามารถนำเงินจำนวนนี้มาช่วยค่าน้ำค่าไฟและค่าอินเตอร์เน็ตได้ ขณะที่กลุ่มนักเรียนที่เรียนในรูปแบบ Onsite สามารถนำเงินมาใช้จ่ายช่วยค่าดำรงชีพให้แก่ตัวเองและครอบครัวได้เช่นเดียวกัน ส่วนการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษาในขณะนี้นั้นครูที่ส่งรายชื่อประสงค์จะเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ครบแล้ว 100% ดังนั้นจึงรอจังหวัดจัดสรรวัคซีน ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาจะเป็นลำดับแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีน