วันที่ 4 ส.ค. – นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า ตนตั้งใจไม่เขียนเฟสบุ๊ก 3 วัน แต่ต้องแหกกฎ เพราะได้อ่านข้อความที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เขียนถึงตน ครั้นจะไม่ตอบณัฐวุฒิก็จะได้ใจหาว่ากลัว ตนจึงต้องแหกกฎมาตอบณัฐวุฒิ ความจริง ตนกับณัฐวุฒิ ก็มิใช่คนอื่นคนไกลหรอก เรามาจากปักษ์ใต้ด้วยกัน ตนอยู่พัทลุง ณัฐวุฒิอยู่นครศรีฯ นั่งรถไฟสายใต้เข้ากรุงเทพฯ ล่าความฝันด้วยกัน แต่สถานีสุดท้ายทางการเมืองของเราต่างกัน สถานีสุดท้ายของณัฐวุฒิ จอดที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนสถานีสุดท้ายของตนพ่ายให้กับนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ แห่งพรรคภูมิใจไทย กลับไปนอนเลียแผลที่พัทลุง เอาเถอะเราต่างเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดเราต่างกัน
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนต้องชี้แจงณัฐวุฒิว่า การทำงานของนักการเมืองในตำแหน่งผช.รมต. มันไม่มีกำหนดเวลาเหมือนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครหรอก รัฐมนตรี/ผช.รมต. เขาไม่ต้องลงชื่อทำงานอันนี้ณัฐวุฒิคงรู้ดีเพราะณัฐวุฒิได้เปรียบตนอยู่แล้ว กล่าวคือณัฐวุฒิ เคยเป็นทั้งรัฐมนตรีและเป็นนักโทษ ส่วนตนเป็นเพียงรัฐมนตรี แต่ไม่เคยเป็นนักโทษ รัฐมนตรีหรือผช.รมต.นั้นเขาทำเฉพาะงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ไม่ต้องลงชื่อ ไม่ต้องลงเวลาทำงาน แล้วแต่รัฐมนตรีเขาจะใช้ ถ้าเขาไม่ใช้ก็อย่าริไปทำ เพราะมันผิดกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน ตนไม่อยากติดคุก ตนก็กล่าวชัดว่า “ไม่ใช่ทีมงานของนายกรัฐมนตรี ท่านนายกฯไม่ได้ใช้ผม ผมจึงไม่ต้องสนองงานท่านนายกฯ ” แต่ขึ้นตรงกับรองนายกรัฐมนตรี(จุรินทร์) เท่านั้น ชัดเจนไม๊ ?
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องที่ตนขอให้ณัฐวุฒิ ซื้อมังคุดจากนครศรีฯ เลี้ยงเจ้าหน้าที่ในเรือนจำและเลี้ยงนักโทษ ก็เพราะอยากเห็นณัฐวุฒิ ไม่เนรคุณผู้มีพระคุณในเรือนจำ คิดถึงข้าวแดงแกงร้อนในเรือนจำ ก็ส่งมังคุดไปฝากเขาบ้าง เผื่อวันหน้าวันหลังได้เข้าไปอีกก็ผูกมิตรไว้แต่จะไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าไรกัน เพียงกลัวว่า เงินที่ฝังดินไว้มันจะเปื่อยหมด เอามาใช้เสียบ้าง เหตุที่บอกว่าให้เอาเงินที่ฝังดินมาซื้อมังคุด เพราะทราบว่าตอนที่ณัฐวุฒิชุมนุม เคยพูดว่า “เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” คดีเผาบ้านเผาเมืองนั้น ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ณัฐวุฒิ จ่ายค่าเสียหายค่าเผาบ้านเผาเมือง 2 คดี มีคดีหนึ่งให้ชดใช้ 21 ล้านบาท (อีกคดีหนึ่งผมจำไม่ได้ว่ากี่ล้าน) แต่ทุกคดีก็น่าจะร่วมๆ 60 ล้านบาท แต่ทุกวันนี้ณัฐวุฒิ ยังทำเท่ห์ ทำหล่อ ยืนกอดอก ยังไม่จ่ายเงินค่าเผาบ้านเผาเมืองให้เขาจนเสร็จสิ้นเลย ก็คงเอาเงินใส่ตุ่มฝังดินไว้ ขี้เหนียวจริงนะเรา ถ้าจ่ายไปเท่าไหร่แล้ว ส่งใบเสร็จมาให้ดูหน่อยเถอะและตนจะประกาศขอบคุณให้เลยว่า “นายแน่จริง” รับผิดชอบการเผาบ้านเผาเมืองจริง แต่หากไม่จ่าย นายมันก็เป็นตลกบริโภคตัวพ่อเลย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อก่อนตอนชุมนุมเดินนำหน้าประชาชน ตอนนี้เดินตามหลังเด็กแล้ว นี่คงเริ่มดีดลูกคิดรางแก้วแล้วสิว่า ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าอาหารเท่าไหร่ แล้วเตรียมตั้งเบิกอีกล่ะสิ ตนจะบอกอะไรให้นะ (อย่าบอกใครนะ อายเขารู้เฉพาะเรา 2 คน) มีคนเขาแอบนินทาว่า ณัฐวุฒิเป็นคนประเภท “สู้แล้วรวย” ตนยังว่าเขาเลยว่า อย่าไปว่าณัฐวุฒิอย่างนั้น ณัฐวุฒิเขาจน เงินที่เผาบ้านเผาเมืองยังไม่ได้จ่ายเลย ถ้าเขารวยจริงเขาจ่ายไปแล้ว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยขออะไรณัฐวุฒิเลย คราวนี้ยอมอาย ขออะไรหน่อยได้ไหม นี่พูดเฉพาะคนใต้ด้วยกัน คนภาคอื่นอย่าเข้ามายุ่ง เราคนปักษ์ใต้เป็นคนจริง อย่าให้คนภาคอื่นเขาดูถูก จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองเถอะ จะได้ไม่ถูกคนค่อนแคะว่าคนใต้มันไม่จริง ไม่รับผิดชอบกับคำว่า “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” จะไม่ได้ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่า “สู้แล้วรวย” จ่ายแล้วจะยืนเต๊ะท่า กอดอก ทำหล่ออย่างไรก็ได้เต็มที่ นี่อย่าหาว่าตนเหยียดเพศเลยนะ ตนพูดกับณัฐวุฒิ 2 คนเท่านั้น พูดแบบนักเลงปักษ์ใต้พูดกัน ถ้าทำอะไรไม่รับผิดชอบ คนใต้เขาว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็ให้เอาผ้าถุงคลุมหัวซะจ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองเถอะอย่าให้เสียชื่อคนปักษ์ใต้บ้านเรา ไม่จ่ายก็เอาผ้าถุงคลุมหัวซะ นี่ทำเต๊ะท่า ยืนกอดอก นายมันก็เป็นตลกบริโภคชั้นต่ำ หากินไปวันๆ อาย!!!