โจรใต้บุกถล่มยิง M79 ชุดจรยุทธ์นราธิวาสดับ 1 นาย

โจรใต้บุกยิงM79ถล่มชุดจรยุทธ์ทหารพรานนราธิวาสจากฝั่งมาเลเซีย ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย

วันที่ 3 ส.ค.64 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผบ.ชค.ปชด.พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.ตากใบ นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตาก เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนนานำชนิดและใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ บุกโจมตีที่ตั้งของหน่วยจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4514 ช่วยสนับสนุนชุดควบคุมป้องกันชายแดน ในการปฎิษัติหน้าที่เฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งตั้งฐานชั่วคราวที่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านแฆแบะ ม.1 ต.นานาค อ.ตากใบ เหตุเกิดในช่วงเวลา 02.19 น.ของวันที่ 3 ส.ค. 64 ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

ล่าสุดจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า สายไฟฟ้าส่องสว่างที่เดินสายอยู่บริเวณหน้าที่ตั้งถูกตัดขาด และบริเวณรายรอบที่ตั้งมีร่องรอยคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ จำนวนกว่า 10 ลูก และมีปลอกกระสุนปืนสงครามนานาชนิดทั้ง เอ็ม.16 อา.ก้า.และลูกซอง ตกกระจายเกลื่อนกว่า 50 ปลอก ส่วนเต้นท์ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน จำนวน 5 หลัง ที่มีกำลังพลประจำอยู่ 8 นาย ถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุน จนเต้นท์ผ้าใบที่กาง 1 ในจำนวน 5 หลัง ปลิวว่อนเกือบที่จะหลุดออกจากเสาหลักที่ใช้กางไว้ โดยเฉพาะเต้นท์หลังที่ 3 ซึ่งอยู่กลางสุดมีศพของ อส.ทพ.เกียรติขจร นาคดี นอนจมกองเลือดอยู่ในสภาพถูกกระสุนปืนของคนร้ายพรุนไปทั้งร่าง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมืองตากใบ นำร่าง อส.ทพ. เกียรติขจร นาคดี ส่งโรงพยาบาลตากใบ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4514 กรมทหารพรานที่ 45 จำนวน 8 นาย กำลังแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 15 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือและระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ แยกกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ได้แฝงตัวมากับความมืดโดยลักลอบข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก มาจากฝั่งประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 เมตร โดยชุดที่ 1 ได้แอบลักลอบตัดกระแสไฟฟ้าส่องสว่างที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ทหาร จากนั้นคนร้ายที่ 2 ได้อาศัยความมืดแฝงตัวโอบล้อมที่ตั้ง พร้อมใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม.16 อาก้า.และไปป์บอมบ์ขวางใส่ที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเป็นเต้นท์ 5 หลังที่กางไว้ข้างรกป่ารกทึบริมพรมแดน แถมคนร้ายชุดที่ 3 ซึ่งแอบซ่อนตัวท่ามกลางความมืดอยู่ฝั่งประเทศมาเลเซีย ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.79 ยิงใส่ที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ทหาร แต่กระสุดพลาดเป้ามาตกที่บริเวณหินกะชุที่นำมาเรียงไว้ริมตลิ่ง แล้วจากนั้นคนร้ายที่ 3 ก็ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงข้ามฝั่งจากประเทศมาเลเซีย เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานออกมายิงต่อสู้ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นละลอกๆนานกว่า 15 นาที จ.ส.อ.กฤษฎา แซ่บุ๋น หน.ชุด ได้วิทยุไปยังหน่วยควบคุมป้องกันชายแดน ที่ตั้งฐานอยู่ อ.ตากใบ และรายงานเหตุที่เกิดขึ้นต่อ พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 ให้รับทราบ เพื่อขอกำลังสนับสนุน กลุ่มคนร้ายดูท่าทีว่าไม่สามารถบุกโจมตีที่ตั้งของชุดจรยุทธ์ ที่มีมาตรการตั้งรับที่ดี จึงได้อาศัยความมืดถอนตัวหลบหนีเข้าฝั่งประเทศมาเลเซีย จากนั้น พ.อ.ทวีรตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 ได้ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เป็นการเร่งด่วน  เจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย 1. จ.ส.อ.กฤษฎา แซ่บุ๋น ถูกสะเก็ดระเบิดน่องขวาด้านซ้าย 2. อส.ทพ.มานะ เร็วสูงเนิน ถูกอัดแรงของระเบิดไปป์บอมบ์มีอาการแน่นหน้าอก 3.อส.ทพ.วุฒินันนท์ ภารกิจ ถูกสะเก็ดระเบิดตาข้างขวาและหัวไหล่ด้านซ้าย 4. อส.ทพ.วิทวัฒน์ อินทะระนก ได้รับบาดเจ็บนิ้วเท้าด้านขวาขาด ซึ่งล่าสุดทั้ง 4 นาย อาการปลอดภัยแล้ว

ด้าน พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นคนสูญเสียของกำลังพล ที่กลุ่มคนร้ายมักฉวยโอกาสก่อเหตุ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่เจ้าหน้าที่ได้วิสามัญนายรอซาลี หลำโสะ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิ อาญา 9 หมายในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารมีมาตรการและแผนตั้งรับในการตอบโต้กลุ่มคนร้าย ที่ตนได้เน้นย้ำไว้เสมอ จนกลุ่มคนร้ายไม่สามารถที่จะโจมตีที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ทหารได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้แล้วในช่วงคืนที่ผ่านมาเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุใส่ไว้ในท่อแปปเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ไปผูกติดไว้กับเสาไฟฟ้าริมถนนสายตากใบ สุไหงโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านสะหริ่ง ม.1 ต.โฆษิต และได้จุดชนวนจนส่งผลทำให้เสาไฟฟ้าขาด 1 ต้น แต่โชคดีสายไฟฟ้าได้พยุงเสาไฟให้เอียงไปในไหล่ทาง ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อการจราจร และจากการตรวจสอบในช่วงเช้า พบว่า ระเบิดแสวงเครื่องลูกดังกล่าวทำงานสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบตัวจุดชนวนระเบิดแต่อย่างใด แต่ทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่รอยต่อ อ.ตากใบกับ อ.สุไหงโก-ลก ประชาชนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นการชั่วคราว ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ตากใบ จะเร่งซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานตามปกติ

กรียา เต๊ะตานี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นราธิวาส

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น