จากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกมาทำกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ต้องออกปฏิบัติภารกิจ กันอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการสับเปลี่ยนผลัดเวรกันไม่ทัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ จึงมีความจำเป็นที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกคำสั่งเพิ่มนโยบาย ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มีอายุเกิน 45 ปี เข้าปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน หากกำลังไม่พอให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดหน่วยงานอื่นๆเข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ออกมาทำกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ
จนกระทั่ง วันที่ 2 ส.ค. 2564 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เขียนจดหมายถึงผู้บัญชาการ ที่อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคยสั่งการห้ามเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนต้องมีอายุไม่เกิน 45 ปี สุขภาพแข็งแรง เนื่องจากเคยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนอายุ 53 ปี เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งยังโดนสั่งเขียนรายงานหลังอนุญาตให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพักเวรหลังไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนเกิน 8 ชั่วโมง 30 นาที
พันตำรวจเอกกฤษณ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี จดหมายเปิดผนึกจากใจ อคฝ. ที่ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยออกนโยบายสั่งการห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่มีอายุเกิน 45 ปี สุขภาพไม่แข็งแรงเข้าปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเคยมีกรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า ในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่นั้นมีหลักเกณฑ์กำหนดอายุ และต้องควบคู่ไปกับผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์ความพร้อมรอบด้านด้วย
เนื่องจากการปฏิบัติภารกิจ ต้องมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาปฏิบัติหน้าที่กัน ซึ่งอาจมีในบางจุดที่ต้องใช้กำลังเสริมของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนตามความจำเป็น เพื่อรักษาความเรียบร้อยในบ้านเมือง อีกทั้งยังระบุว่า ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะมีอายุ 45 ปี ขึ้นไป แต่หากร่างกายมีความพร้อมสุขภาพแข็งแรง รวมถึงมีประสบการณ์ ประกอบกับกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ก็จะพิจารณาเป็นกรณีไป