เปิดใจ “สันธนะ” หลังตำรวจให้ประกันตัว ปมอุ้มรีดค่าไถ่ชาวไต้หวัน

ตำรวจให้ประกันตัว “สันธนะ” พร้อมพวก หลังเข้าสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง ระบุ ถูกกลั่นแกล้ง น้อยใจติดโควิดยังถูกตำรวจเชิญตัวมา

หลังจาก นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล พร้อมพวก รวม 5 คน  เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เพื่อให้ปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง กรณีตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุอุ้มชาวไต้หวันมาเรียกค่าไถ่ และล่าสุดพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งใช้หลักทรัพย์ประกันตัวมูลค่า 3 แสนบาทนั้น

ล่าสุด นายสันธนะ เปิดเผยภายหลังการให้ปากคำ ว่า เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ตำรวจตั้งไว้ และใช้เงินประกันตัวออกมา มูลค่า 1 แสนบาท ส่วนลูกน้อง ใช้เงินประกันตัวคนละ 5 หมื่นบาท โดยตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และแสดงความน้อยใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้ตนเองติดเชื้อโควิด-19 และหมอให้กักตัวจนถึงวันที่ 6 ส.ค.นี้ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมา 4 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือน มี.ค. ควรรอให้ตนหายดีก่อนและจะมาพบพนักงานสอบสวน แต่กลับถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายจับ 7 หมาย คือ ตนเองและผู้ติดตาม ซึ่งได้มามอบตัวแล้ว 5 คน ส่วนอี ก 2 คน ติดโควิด 1 คน และอยู่ในช่วงกักตัวอีก 1 คน โดยจะมามอบตัวในภายหลัง

นายสันธนะ เปิดเผยอีกว่า คาดว่าเรื่องนี้ตนถูกกลั่นแกล้ง เพราะชาวต่างชาติที่ตนบอกมาเสมอว่ารู้จักกัน และถูกจับกุมตัวโดยตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 15 พ.ค. จนนับถึง วันที่ 6 ส.ค.นี้ จะครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้าย รวมระยะเวลา 84 และในวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึง ผกก.สน.ทองหล่อ ว่า แพทย์ได้ให้ตนกักตัวดูอาการ และทำหนังสือชี้แจงพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ในทางคดีไม่สามารถรอผลได้ และต้องการดำเนินคดีตน เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ตำรวจจึงนำสำนวนไปขอหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ มากลั่นแกล้งให้ตนมีส่วนในคดี

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทั้ง 7 คน ในฐานความผิด “ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร,ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยอ้างอำนาจ อั้งยี่ หรือ ซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพและร่างกาย”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สอบสวนกลาง บก.ปคม. สนธิกำลัง ลุยตรวจวอล์คกิ้งสตรีท ป้องปรามค้ามนุษย์ สิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ยันเป็นเมืองเข้มงวด ปลอดภัย
"โฆษกภูมิใจไทย" แถลงยัน หน.พรรค-กก.บห.พร้อมแสดงหลักฐาน แก้กล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. ชี้หนังสือส่อพิรุธ ดีเอสไอครอบงำ
"สงขลาคัพ 2568" ปิดฉากสุดคึกคัก หาดใหญ่เหมาแชมป์ 4 รุ่น พร้อมกับคว้าสิทธิ์ลุย "กัปตันสึบาสะ คัพ" ที่ประเทศญี่ปุ่น
สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น