No data was found

“อนุทิน” ลงนามความร่วมมือสหราชอาณาจักร พัฒนาจีโนมิกส์ รุกก้าวสธ.ไทยวิจัยกลุ่มโรควินิจฉัยยาก

กดติดตาม TOP NEWS

"อนุทิน" ลงนามความร่วมมือสหราชอาณาจักร พัฒนาจีโนมิกส์ รุกก้าวสธ.ไทยวิจัยกลุ่มโรควินิจฉัยยาก

วันที่ 20 ม.ค. 66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เป็นผู้แทนประเทศไทยในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ซึ่งในการนี้ Lord Nick Markham CBE รมช.สาธารณสุขและการดูแลทางสังคม ได้เป็นผู้แทนลงนามในฝ่ายของสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง ประเทศทั้งสองจะแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านการจัดลำดับจีโนม และร่วมมือกันในการวิจัย, การศึกษา, การฝึกอบรม, การแลกเปลี่ยนความรู้, และการจัดการข้อมูล นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมกันศึกษาถึงบรรดาโรคที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และมะเร็งที่พบได้ยาก รวมถึงจะร่วมกันพัฒนาความเชื่อมโยงทางวิชาการและสถาบัน โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนหน้า

ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ทั้ง 2 ประเทศแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับจีโนมิกส์ ร่วมกันศึกษาดีเอ็นเอของผู้คนได้ดียิ่งขึ้น จากโครงการริเริ่มจีโนม 50,000 จีโนมของจีโนมิกส์ประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2019 และโครงการ 100,000 จีโนมของสหราชอาณาจักร

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยการลงนามได้มีขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคม สหราชอาณาจักร โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วม ฝ่ายไทยมีผู้เข้าร่วม อาทิ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และนพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) ทางด้านสหราชอาณาจักรมีผู้เข้าร่วม อาทิ ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม, National health services (NHS), Genomics England, National health services (NHS),UK Health Security agency, และหน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทยได้กล่าวว่า  MOU ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ทางการแพทย์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ซึ่งภายใต้ความร่วมมือจะมุ่งให้ความสำคัญกับการวิจัยโรคหายาก มะเร็ง เภสัชพันธุศาสตร์ โรคไม่ติดต่อ และโรคติดเชื้อ

สำหรับรูปแบบของความร่วมมือ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้และเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญและผู้แทนในการศึกษาดูงาน การประชุมเกี่ยวเนื่องที่สำคัญ การอบรม และจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ด้านจีโนมิกส์ และการพัฒนาฐานข้อมูลพันธุกรรมของประเทศ

“ความร่วมมือของ 2 ประเทศ จะนำไปสู่การหาทางออกสำหรับความท้าทายทางสุขภาพที่กำลังเป็นประเด็นเร่งด่วน ด้วยเป้าหมายในการใช้จีโนมิกส์วินิจฉัยผู้ป่วย เพื่อให้เกิดการค้นพบวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบริการด้านจีโนมิกส์ในประเทศไทย ซึ่งจะส่งเสริมเป้าหมายที่ไทยกำลังขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่สำคัญของโลกด้วย”นายอนุทิน กล่าว

 

 

ด้านนางเจนนี่ แฮร์รีส์ หัวหน้าผู้บริหารของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสร้างขึ้นจากบทเรียนที่ได้รับ จากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศเช่นประเทศไทย เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นต่อภัยคุกคามด้านสุขภาพ และประเทศไทยมีความสามารถด้านจีโนมชั้นนำระดับโลก การระบาดใหญ่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเฝ้าระวังจีโนมมีความสำคัญเพียงใด กับมาตรการด้านสาธารณสุขทั่วโลก ความร่วมมือดังกล่าว จะเสริมสร้างความสามารถของสหราชอาณาจักร ในการติดตามและตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่ๆต่อไป

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายหลังการลงนามผู้บริหารจากไทยและสหราชอาณาจักร ยังได้หารือในประเด็นทางการแพทย์และการวิจัยที่อาจขยายความร่วมมือไปสู่ความร่วมมือทางสาธารณสุขในมิติอื่น ๆ ระหว่าง 2 ประเทศ อาทิ Health innovations, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรกับอาเซียนโดยจะมีไทยเป็นประเทศนำร่อง

ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับจีโนมิกส์ คือการค้นคว้าหากลุ่มยีนหรือพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิต เพื่อหารูปแบบการทำงานของยีน ความสัมพันธ์ของยีนกับสิ่งแวดล้อมในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์ได้ให้ความสนใจต่อการวิจัยเกี่ยวกับการแสดงออกของยีนที่มีผลต่อการก่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคหายาก โรคมะเร็งและโรคติดเชื้อ เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยและการรักษาโรคที่แม่นยำ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อว." ร่วม "TopNews" เปิดโครงการ "สร้างโอกาสการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จ" ขยายความเท่าเทียมความรู้ นำพัฒนาคุณภาพชีวิต
"พิธา" ปัดก้าวไกลโหนศพ"บุ้ง" อ้างไม่รู้จักก๊วนทะลุวังเป็นการส่วนตัว ห้ามอดข้าวไม่ได้
"พิพัฒน์" ห่วงครอบครัวแรงงานเสียชีวิตในอิสราเอล รุดเยี่ยมให้กำลังใจ สั่งดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่
"คารม" สวนปังไอโอปั่นโจมตีแนวคิดศธ.ลดภาระค่าใช้จ่าย ยันพูดชัดผ่อนผันยกเว้นแต่งชุดนร. ไม่ใช่ยกเลิก
โซเชียลแซวยับ "พิธา-ก้าวไกล" ดาหน้าโหนวาระสุดท้าย "บุ้ง" ซัดตอนมีชีวิตทำไมไม่ไปเยี่ยมในคุก
"อนุทิน" สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ จัดทำแผนรับมืออุทกภัย ลดสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สินประชาชน
พิธีมอบทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 ให้กับนักเรียน 149 ทุน ที่โรงเรียนวัดศรัทธาภิรม ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
บุกจับ "น้องหญิง" เจ้าสำนักคลื่นพลังบุญ ร้องไห้โวยวายลั่น อึ้งบอกรู้อยู่แล้วพระพุทธเจ้าเมสเสจมาบอก
กรมราชทัณฑ์ แจงขั้นตอนช่วยชีวิต "บุ้ง ทะลุวัง" ย้ำใส่ท่อช่วยหายใจ ทำตามมาตรฐาน พร้อมให้ประวัติการรักษาญาติ
"โฆษกกองทัพอิสราเอล" ยืนยันพบศพตัวประกันฮามาสรายที่ 4 เตรียมนำร่างกลับบ้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น