ถอดบทเรียนลูก “เต่าทะเล” ดับ 11 ตัว พบขยะพลาสติกในทางเดินอาหาร

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพบลูก “เต่าทะเล” ติดแพขยะขนาดใหญ่กว่า 700 เมตร ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565

เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้นำลูกเต่า 11 ตัว ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก จ.ระยอง โดยลูกเต่ามีอายุไม่ถึง 1 เดือน

• มีอาการอ่อนแรง
• ส่วนใหญ่ซึม
• ไม่ยอมกินอาหาร จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

หลังจากสัตวแพทย์กรม ทช. พยายามดูแลรักษา ประคับประคองอาการมาได้ 1 เดือน ลูกเต่าเริ่มทยอยตาย จนเข้าสู่เดือนที่ 3 ลูกเต่าตัวสุดท้ายได้ตายลง จากการชันสูตรของทีมสัตวแพทย์ ทช. พบลูกเต่าตัวเล็กทุกตัวมีขยะอยู่ในทางเดินอาหาร แม้จะได้รับการรักษา แต่ยังไม่สามารถขับถ่ายขยะจำนวนมากออกมาได้ ทำให้ทางเดินอาหารอุดตันไปด้วยขยะและลูกเต่าไม่สามารถกินอาหารได้ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและตายในที่สุด

แม้ขยะที่อุดตันในลำไส้ลูกเต่าจะเป็นเพียงขยะชิ้นเล็ก ๆ สำหรับมนุษย์ แต่ทำให้สัตว์ทะเลเจ็บปวดและทรมานจนตายได้ โดยเฉพาะกรณีสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต่า ทะเลที่มีอัตราการรอดน้อยมากอยู่แล้ว และภัยคุกคามจากขยะทะเลยิ่งทำให้เต่า ทะเลมีโอกาสสูญพันธุ์มากขึ้น