“ทูตไทย” เผยเบื้องหลังดีล “ไฟเซอร์” 1.5 ล้านโดส จากรัฐบาลสหรัฐฯ

“ทูตไทย” เผยเบื้องหลังดีลไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากรัฐบาลสหรัฐ ร่วมมือทุกภาคส่วน-ใช้ทุกช่องทาง พร้อมเร่งเจรจาขอให้บริษัทส่งมอบ 20 ล้านโดส เร็วกว่ากำหนดไตรมาส4

สำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกา ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ “ทูตไทยในวอชิงตันเผยเบื้องหลังดีลวัคซีนกับสหรัฐฯ” โดยสัมภาษณ์ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้รัฐบาลไทย 1.5 ล้านโดส ซึ่ง นายมนัสวี เปิดเผยว่า เดิมทางสถานทูตฯ ได้รับแจ้งจากทำเนียบขาวโดยตรงว่าจะบริจาควัคซีนให้ไทย 1.5 ล้านโดส ในเวลาไล่เลี่ยกัน นางแทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย ก็โทร.มาแจ้งข่าวว่า ในนามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความห่วงใยกับประชาชนคนไทย ถือว่าเป็นมิตรเก่าแท้ของสหรัฐฯ ก็จะขอเพิ่มวัคซีนให้ประเทศไทยอีกต่างหาก 1 ล้านโดส รวมแล้วเป็น 2.5 ล้านล็อตแรก 1.5 ล้านโดสก็ไปถึงเมืองไทยแล้วสัปดาห์นี้ แล้วก็หาล็อตที่ 2 สถานทูตฯ กำลังประสานกับทางทำเนียบขาวอยู่ เพื่อให้เขาเร่งรัดให้รีบส่งให้เมืองไทย

 

ทั้งนี้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทางสถานทูตฯ ได้ทำงานอย่างหนัก ในทุกช่องทางที่เป็นไปได้ในการประสานกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ในสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของทุกประเทศทั่วโลกทั้งฝ่ายบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ฝ่ายรัฐบาลและทำเนียบขาวกับกระทรวงต่างประเทศ กับ ส.ส. และ ส.ว ของสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยเข้าถึงวัคซีนเหล่านี้ได้

 

เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวต่อว่า วิธีที่จะเข้าถึงฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่ข้าราชการด้วยกันเอง ต้องไปถึงกลุ่มต่างๆ ภาคเอกชน เข้าถึงภาคสถาบันวิชาการซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูลให้กับทางสภาฯ หรือให้กับทางรัฐบาล เราก็เห็นว่าการที่ตนไปพบกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐสภาฯ ไม่เพียงพอ เราต้องพยายามหาแนวร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งของไทยกับของสหรัฐฯ ที่จะช่วยโน้มน้าวรัฐบาลในการในการเดินหน้าความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯนอกจากนี้ ทางสถานทูตฯ กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะขอให้มีการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส ที่รัฐบาลไทยได้ลงนามจัดซื้อและมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 4 หรือในปลายปีนี้  ให้ส่งมอบได้เร็วขึ้นหากเป็นไปได้ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และยังอาศัยเครือข่ายเพื่อนประเทศไทย บุคคลที่รู้จักชาวสหรัฐฯ ที่รู้จักและมีเส้นสายต่างๆ ให้ช่วยรณรงค์ให้ประเทศไทยอีกรอบหนึ่ง

 

นอกจากนี้ ทางสถานทูตไทยฯ ได้ติดต่อกับทุกบริษัทวัคซีนของสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันวิจัยและผลิตวัคซีน ซึ่งก็เดินหน้าไปต่อไป และพยายามจับเชื่อมโยงองค์การ สถาบัน หรือบริษัทต่างๆ ที่มีความชำนาญ ที่จะสามารถมาช่วยเป็นพันธมิตรในการผลิตวัคซีนในประเทศไทยแล้วทางกรุงเทพฯ ก็ได้มีการติดต่อโดยตรงกับบริษัทเหล่านี้ ที่มีตัวแทนอยู่ในเมืองไทย ซึ่งไทยมีโอกาสในสถาบันต่างๆ ที่มีมาตรฐานสูง และมีผลงานที่เด่นชัดแล้ว จากประสบการณ์ในอดีตเคยร่วมผลิตยารักษามาลาเรีย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กสทช.-ตร." แจงเหตุบุกบริษัทเอกชน ตรวจยึดโดรน รถโมบาย พบสัญญาณบินโผล่บางปู "ศบ.ทก."ชี้อาจไม่เกี่ยวเหตุป่วน
"ดร.สามารถ" ตอกลิ่ม"ผู้นำกัมพูชา"ไร้หัวใจ โลกต้องไม่อภัยปล่อยศพ ทหารเขมรทิ้งกลิ่นเน่าโชย
"อ.ปณิธาน" ชี้ 2 ช่องทาง ฟ้องเอาผิด "กัมพูชา" ละเมิดสนธิสัญญา ยิงอาวุธใส่ไทยก่อน ทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์
"สงขลา" ปิดค่ายเยาวชนรุ่นใหม่ “YOUTH LEADER NEW GEN” พร้อมจับมือศอ.บต. เตรียมต่อยอด ปลุกพลัง New Gen เสริมศักยภาพ พัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้
ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา เปิด สะพานบารมีโสธร ช่วยลดความแออัดการจราจร เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน
จันทบุรี ชาวกัมพูชาหลั่งไหลเดินทางกลับบ้านแน่นหน้าด่าน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​