ฝรั่งเศสเตรียมแบน “พลาสติก” บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง 1 ม.ค. 66
- เผยแพร่ : 31/12/2022 15:51
กดติดตาม TOP NEWS
ฝรั่งเศสเตรียมใช้กฎหมายใหม่แบน "พลาสติก" และบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง ตั้งแต่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป เพื่อลดขยะมากถึง 180,000 ตัน/ปี
ข่าวที่น่าสนใจ
ฝรั่งเศสเตรียมแบนบรรจุภัณฑ์จำพวกภาชนะ จาน ถ้วยแบบใช้แล้วทิ้ง ของเล่นพลาส ติกที่แถมกับเมนูสำหรับเด็ก และ “พลาสติก” ที่ใช้ห่อผักผลไม้ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการต่อสู้กับขยะและกระตุ้นการรีไซเคิลมากขึ้น เริ่มบังคับใช้ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นไป
ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในฝรั่งเศสนั้นสร้างขยะมากถึง 180,000 ตันจากอาหารกว่า 6,000 ล้านมื้อ/ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขยะจำพวก
- ภาชนะ
- จาน
- ถ้วย
- ช้อน ส้อม
- และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด จะต้องเลิกใช้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ทั้งหมดทั้งสำหรับรับประทานอาหารที่ร้านหรือซื้อกลับบ้าน
ถึงแม้จะเป็นเรื่องดีที่จะช่วยลดปริมาณขยะพลาส ติกลง แต่กฎหมายนี้ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารย์จาก European Paper Packaging Alliance (EPPA) ซึ่งระบุว่า บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวส่วนใหญ่นั้นทำมาจากทรัพยากรหมุนเวียนอยู่แล้ว ซึ่งมีอัตราการรีไซเคิลสูงกว่า 82% ทั่วสหภาพยุโรป นอกจากนี้ การผลิตสิ่งของที่ใช้ซ้ำได้นั้นใช้พลังงานและน้ำมากกว่าสิ่งของประเภทใช้แล้วทิ้งอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเองก็ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้นั้น ลูกค้าหลายรายก็แอบนำกลับบ้าน หรือหลายครั้งก็ลงเอยด้วยการทิ้งลงถังขยะแทนที่จะส่งคืน
Maria Varela ผู้จัดงานร้าน McDonald’s ในย่านชานเมือง Levallois-Perret ของปารีส เผยว่า ทางด้านต้องใช้เครื่องล้างจานเพิ่มและจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อคอยอธิบายให้กับลูกค้าเข้าใจว่า จาน มีด ช้อน และส้อม ต้องแยกออกจากถังขยะ
นอกจากนี้ ร้านยังต้องออกแบบห้องครัวใหม่ เพื่อรับมือกับข้อกำหนดใหม่นี้ ทั้งการแยกออเดอร์กลับบ้านหรือทานในร้าน และสร้างพื้นที่เก็บบรรจุภัณฑ์ใหม่ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนในการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในหลายประเทศเองก็เริ่มตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และพยายามเปลี่ยนแปลงให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะ ถึงแม้จะการติดขัดอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เช่น อาบูดาบี สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในร้านค้าปลีกลงถึง 87 ล้านใบ หรือประมาณร้อยละ 90 หลังเอมิเรตประกาศห้ามใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ข้อมูล : thenationalnews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
