“ก้าวไกล” ออกตัวโดดป้อง ครูพาดพิง “พล.อ.เปรม” ขอหยุดล่าแม่มดคนคิดต่าง

"ก้าวไกล" ออกตัวโดดป้อง ครูพาดพิง "พล.อ.เปรม" ขอหยุดล่าแม่มดคนคิดต่าง

จากกรณีที่ครูสาวในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เขตกรุงเทพมหานคร ได้มีการสอนเนื้อหาในวิชาประวัติศาสตร์ โดยพาดพิงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษและอดีตประธานองคมนตรี และได้การมีเปิดเอกสารถ้อยแถลงระบุว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาจะหมิ่นหรือพาดพิง เป็นเพียงการสอนเท่านั้น และได้มีกระแสข่าวบนโลกโซเชียล ห่วงความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ที่เป็นคนถ่ายคลิปดังกล่าวด้วย

ต่อมาทางด้าน “นิพนธ์ บุญญามณี ” ได้ขอบคุณ ทีมช่วยเหลือนักเรียนถ่ายคลิปครูบิดเบือนข้อมูล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ระบุชัด ภาคประชาชนสำคัญมากที่จะช่วยเป็นหูเป็นตาคอยดูแลช่วยเหลือสอดส่อง พฤติกรรมอันไม่เหมาะสม อันเกิดความบิดเบือนประวัติศาสตร์นำซึมซับเข้าเยาวชนอันเป็นกำลังหลักของชาติ

ล่าสุดใน เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล ได้เคลื่อนไหวถึงประเด็นนี้ โพสต์ข้อความว่า กรณีครูพูดถึง พล.อ.เปรมในชั้นเรียน ต้องทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ล่าแม่มดเพื่อกำจัดคนคิดต่าง

จากกรณีที่มีครูท่านหนึ่งพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในชั้นเรียนในฐานะตัวอย่างเมื่อพูดถึงการปกครองในระบอบอำนาจนิยมและมีการพาดพิงถึงประเด็นเพศวิถี พรรคก้าวไกลเห็นว่าสิ่งที่ครูท่านนั้นตั้งข้อสังเกตทั้งเรื่องเพศและเรื่องข้อเท็จจริง ต้องพูดด้วยท่าทีที่ระมัดระวังและตระหนักถึงการเคารพความหลากหลายทางเพศมากกว่านี้ แต่เราไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี การกระทำของผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และการล่าแม่มดโดยขบวนการจัดตั้งของสื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่กดดันให้มีการลงโทษครูท่านนั้นอย่างไม่เป็นธรรม

 

 

พรรคก้าวไกล : มติเอกฉันท์ ทิม-พิธา นั่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศเริ่มบทที่ 2 ของอนาคตใหม่ - BBC News ไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

จริงอยู่ว่าการพูดถึง พล.อ.เปรม ในลักษณะมีอคติทางเพศเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่การแก้ปัญหาของกรณีนี้ควรเป็นการตักเตือน และอบรมทัศนคติครูเรื่องการเข้าใจความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ดำเนินการทางนิติสงคราม ทั้งทางกฎหมายและทางวินัย รวมทั้งใช้การกดดันทางสังคมอย่างการล่าแม่มด

การที่มวลชนและสื่ออนุรักษ์นิยม หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาล่าแม่มดครูท่านนี้ เป็นเพราะต้องการให้ชั้นเรียนตระหนักถึงความเข้าใจความหลากหลายทางเพศ และตระหนักถึงปัญหาการบูลลี่ หรือเป็นไปเพื่อปิดปากทุกคนที่เห็นต่างจากตนเองด้วยการกดดันให้ใช้กลไกอำนาจรัฐเข้าเล่นงานกันแน่

ถ้าผู้ที่ออกมาโจมตีครูท่านนี้เห็นความสำคัญของการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราควรส่งเสริมคือการเปิดให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีการถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกันทุกด้านและหักล้างกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การใช้อำนาจปิดปาก สร้างความกลัว และสถาปนาความจริงเพียงด้านเดียวในแบบที่ผู้มีอำนาจต้องการให้เชื่อ

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้มีการดำเนินคดีด้วยเหตุผลปลุกปั่นสร้างความแตกแยก เราอยากถามกลับไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าใครกันแน่ที่กำลังสร้างความแตกแยก ระหว่างครูคนหนึ่งที่สอนในชั้นเรียนกับสื่อและมวลชนที่ทำการล่าแม่มด เคลื่อนไหวกดดันให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง

 

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน และ ข้อความ

เราเชื่อว่าการทำให้การศึกษาไทยมีอนาคต ต้องทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ควบคู่กับการสอนประวัติศาสตร์ที่สร้างการถกเถียงไม่ใช่รับข้อมูลข้างเดียว แต่การล่าแม่มด กำจัดผู้เห็นต่างที่มีความเชื่อต่างจากตัวเอง และใช้อำนาจเข้าข่มขู่คุกคามมากกว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้จะยิ่งปลูกฝังวัฒนธรรมอำนาจนิยมในโรงเรียน และจะยิ่งทำให้การศึกษาของชาติล้าหลัง ไม่ทันโลก

ถ้านายกรัฐมนตรีและผู้ที่มีอำนาจในประเทศนี้ ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษาด้านอื่นๆ ในระดับเดียวกันกับการล่าแม่มดครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น

– สิทธิเสรีภาพในสถานศึกษา
– การต่อต้านการบูลลี่รังแกกัน
– ทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ
– ทำความเข้าใจเรื่องการเคารพสิทธิเหนือชีวิตและร่างกายของนักเรียน
– ปฏิรูปชั้นเรียนและหลักสูตรให้ก้าวหน้าสร้างสรรค์ มีเสรีภาพในการพูดและปลอดภัย
– ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของครูผู้สอน
– คิดหาวิธีการเพิ่มทรัพยากรสนับสนุนเด็กระดับประถมศึกษาและปฐมวัย
– เปลี่ยนวิธีการประเมินวัดผลการศึกษา
.
เราเชื่อว่าการศึกษาไทยจะต้องพัฒนามากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้อย่างแน่นอน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตำรวจพัทยา" ลุยกวาดล้างผู้ลักลอบขายน้ำกระท่อม ริมหาดจอมเทียน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดตัวเครื่องซื้อขายทองคำอัตโนมัติที่ซูโจว
"กทพ." โร่ชี้แจงความจริง เหตุก้อนปูนตกใส่รถ บนถนนบางนา พร้อมกางหลักฐานฝีมือคนทำ
เหตุการณ์สุดสลด "พ่อพาลูก-หลาน" ไปเล่นน้ำชี สุดท้ายจมน้ำดับ 3 คน
"อุตุฯ" เตือน 43 จังหวัด โดนฝนถล่มหนัก-ลมกระโชกแรง กทม.ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ลาออก
สั่งจำคุก 24 ปี "ประยุทธ มหากิจศิริ" โดนป.ป.ช.ฟ้องผิด ร่วมทุจริตแปลงป่าสงวนฯ ทำโฉนดที่ดินสร้างสนามกอล์ฟ
หลุดทุกข้อหา "อธิบดีอัยการ ภาค 6 " สั่งไม่ฟ้อง "ดร.พอล" ยื่นศาลขอปล่อยตัว ส่งถามผบช.ภ.6 เห็นแย้งหรือไม่
อบจ.ฉะเชิงเทรา เปิดโครงการฝึกสอนกีฬาให้กับนักเรียนและเยาวชน รุ่นที่ 3 ฟุตซอล เทควันโด กรีฑา
“ศุภมาส” นำอว. ร่วมสตม. คุมเข้มมหาวิทยาลัยรับนักศึกษาต่างชาติ เตรียมมาตรการสแกนหลักสูตร Non-Degree สุ่มตรวจไม่ปล่อยเกิดปัญหา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น