คณะกรรมการบริหารร่วม 4 สมาคม ซึ่งประกอบด้วยสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า รวม 14 คน นำโดย นายพัลลภ ฉาอินธุ นายกสมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ เดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวทุกข์ของรัฐบาล ภายในสนง.กพ. เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อย
ภายหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดของโควิด และมาตรการของศบค.ที่ออกมา เช่น การห้ามเข้าประเทศ การล็อคดาวน์การทำเวิร์ดฟอร์มโฮม การปิดสถานบริการ ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารของผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อย ลดลงไปเป็นจำนวนมาก รายได้ขาดหายไปมาก การระบาดระลอกนี้ทำให้รายได้หายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรายได้เพิ่ม แต่ภาระค่าใช้จ่ายยังมีอยู่เช่นเดิมไม่ว่าจะเป็นเงินส่งให้ครอบครัว ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่ารถ หรือเงินชำระค่างวดรถฯ
ดังนั้นคณะกรรมการบริหารร่วม 4 สมาคม ซึ่งประกอบด้วยสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า จึงมีมติในการขอความอนุเคราะห์ความช่วยเหลือจาก นายกรัฐมนตรีดังนี้
1. ขอให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อย เข้าถึงมาตรการในการพักชำระหนี้ระยะเวลา 1 ปี ทุกสถาบันการเงิน รวมไปถึงไฟแนนซ์ลิสซึ่งเอกชนและสหกรณ์ฯ ตามที่มาตรการ ธปท. ออกมาบังคับใช้ซึ่ง ณ ปัจจุบันไม่สามารถใช้ได้จริง
2. ขอให้ผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทเมื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 รวมทั้งผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่มีที่อยู่นอกเขต 13 จังหวัด โดยอ้างอิงฐานข้อมูลเพิ่มจากการรับเงินเยียวยาครั้งที่ผ่านมาทั้งนี้รวมถึงผู้เช่าขับรถ แต่ในขณะนี้ได้คืนรถให้อู่หรือสหกรณ์เพราะไม่มีผู้โดยสารจึงมีความจำเป็นต้องนำรถมาจอดไว้ก่อนแล้วกลับไปอยู่ต่างจังหวัดในขณะที่มีการล็อคดาว์นเพราะไม่สามารกหารายได้มาชำระค่างวดรถและค่าเช่าได้ แต่ยังคงเป็นผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยอยู่เช่นเดิมโดยพิจารณาจากฐานข้อมูลในการรับเงินเยียวยาในรอบที่ผ่านมา
3. ขอให้ตั้งคณะทำงานเพื่อมาแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยให้ครบวงจรก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับ