No data was found

“จุรินทร์” โชว์ส่งออก 10 เดือนแรกบวก 9.1% มูลค่ากว่า 8.32 ล้านล้านบาท

กดติดตาม TOP NEWS

“จุรินทร์” ปั้มเงินเข้าประเทศ "ฟื้นเศรษฐกิจ" โชว์"ศักยภาพส่งออก" 10 เดือนแรก ยังบวก 9.1% มูลค่ากว่า 8.32 ล้านล้านบาท ส่งออกผ่านค้าชายแดนบวก 17.6% ทำเงิน 544,583 ลบ.

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ แถลง ภาวะการค้าระหว่างประเทศ และการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนตุลาคม และ 10 เดือนแรกของปี 2565 ที่ ห้องบุรฉัตรไชยากร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขทางการสำหรับการส่งออกเดือน ต.ค.และ 10 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกเดือน ต.ค.สามารถสร้างเงินให้ประเทศ 801,273 ล้านบาท -4.4% และ 10 เดือนแรกของปีนี้ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. +9.1% สามารถสร้างเงินให้ประเทศ 10 เดือน ปี 65 มูลค่า 8,325,091 ล้านบาท สินค้ารายหมวดทั้ง 3 หมวด คือ สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 65 สินค้าเกษตร -4.3% รวม 10 เดือน +4.3% สร้างเงินให้ประเทศ 777,212 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ต.ค. -2.3% รวม 10 เดือนแรกปี 65 +22.6% สร้างเงินให้ประเทศ 665,537 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค.65 -3.5% 10 เดือนแรกของปี 65 +7.8% สร้างเงินให้ประเทศ 6,528,647 ล้านบาท

หมวดสินค้าเกษตร เดือน ต.ค.ติดลบยางและผลไม้สด เพราะผลไม้สดนอกฤดู ส่วนยางพารา -28.5% สินค้าที่เหลือเป็นบวกทั้งหมด เช่น ไก่สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เดือน ต.ค. +38% 10 เดือนแรก +28% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เดือน ต.ค. +26.3% 10 เดือนแรก +15.3% ทุเรียนแช่แข็ง เดือน ต.ค. +23.4% 10 เดือนแรก +52.7% กล้วยไม้ เดือน ต.ค. +10.9% 10 เดือนแรก +24.5% ข้าว เดือน ต.ค. +2.8% 10 เดือนแรก +20.7%

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร สินค้าที่หดตัวคือ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป -11.3%
เครื่องดื่ม เดือน ต.ค.+20.3% 10 เดือนแรก +2.6% ไอศกรีมที่เป็นดาวรุ่ง เดือน ต.ค. +13.5% 10 เดือนแรก +28.9% อาหารสัตว์เลี้ยง เดือน ต.ค. +4.8% 10 เดือนแรก +20.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เดือน ต.ค. +0.9% 10 เดือนแรก +12.5% หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่หดตัวในเดือน ต.ค. 65 คือ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน -22.8% เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ -27.4% เหล็ก -13.1%

สาเหตุที่สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันในเดือน ต.ค. เป็นลบ เพราะราคาน้ำมันโลกเริ่มอ่อนตัว ส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ยังขาดแคลนชิบและระบบการขนส่งชิบ ส่วนเหล็ก ราคาตลาดโลกของเหล็กลดลง เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว เพราะจีนเป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญของไทย
เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +90.6% 10 เดือนแรก +70.2% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด เดือน ต.ค. +74.9% 10 เดือนแรก +15.7% รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +14.9% 10 เดือนแรก -0.2%
เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +8.5% 10 เดือนแรก +11% อัญมณีและเครื่องประดับ เดือน ต.ค. +5.4% 10 เดือนแรก +38.3% รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +5.1% 10 เดือนแรก -2.7%

ตลาดที่ขยายตัว 10 อันดับแรก ในเดือน ต.ค 65 ได้แก่ 1. สวิตเซอร์แลนด์ (+103.5%) 2. ซาอุดิอาระเบีย (+49.6%) 3. ลาว (+28.8%) 4. ทวีปออสเตรเลีย (+18.8%) 5. เวียดนาม (+13.3%) 6. ไต้หวัน (+6.3%) 7. กัมพูชา (+5.2%) 8. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (+4.1%) 9. สหราชอาณาจักร (+3.7%) และ 10. เม็กซิโก (+1.1%)

ปัจจัยบวกที่ยังหนุนการส่งออกของประเทศไทย ประเด็นที่หนึ่ง ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนตัว
ประเด็นที่สอง ประเทศไทยมีตลาดใหม่ที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ซาอุดิอาระเบีย เป็นตลาดใหม่ที่สามารถทำตัวเลขได้ดี รวมถึงตลาดตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย สหอาณาจักรเป็นต้น

ส่วนปัจจัยลบที่มีส่วนสำคัญในการฉุดตัวเลขส่งออกจากนี้ ประเด็นที่หนึ่ง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกน่าเป็นห่วง ทั้งกระทรวงพาณิชย์และเอกชนประเมินเห็นตรงกันว่าจากนี้ไปจะต้องฟันฝ่าเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ต้องเร่งทำการส่งออกให้ดีที่สุด จากการประเมินภาพรวมปีที่แล้วเศรษฐกิจโลก +6% แต่ปีนี้แนวโน้มจะ +3.2% และปีหน้า +2.7% กระทรวงพาณิชย์ต้องจับมือกับเอกชนอย่างเข้มแข็งในการฟันฝ่าแรงเสียดทานนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ประเด็นที่สอง มาตรการซีโร่โควิดของตลาดใหญ่ที่สุดของไทยคือจีนยังไม่มีแนวโน้ม เปลี่ยนแปลง

ประเด็นที่สาม ดัชนีการผลิตหรือ PMI ของคู่ค้าสำคัญของประเทศไทย ลดลงต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีนหรือสหภาพยุโรป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมร่วมกับเอกชน
ล่าสุดตนมอบหมายให้เร่งหารือเตรียมการรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ต้องทำการบ้านลึกในรายละเอียดเช่น 1.เร่งหาตลาดใหม่ทดแทนการส่งออก ในบางตลาดเช่น ตลาดเคมีภัณฑ์กับเม็ดพลาสติก มีมูลค่าถึง 6.62% ของตัวเลขการส่งออกทั้งหมด ตลาดที่เตรียมการไว้ในการเร่งยอดส่งออก คือ ตะวันออกกลาง แอฟริกาและกลุ่มประเทศเอเชียใต้ เช่น อินเดียปากีสถาน บังกลาเทศ เป็นต้น 2.เร่งรัดการส่งออกข้าว โดยอินเดียเริ่มขึ้นภาษีการส่งออกข้าว จะเป็นช่องทางให้ไทยหาตลาดทดแทนตลาดอินเดีย ทั้งตลาดอินโดนีเซียหรือตลาดแอฟริกาและอื่นๆ ตลาดแอฟริกาตลาดข้าวยังขยายตัวได้ดี เช่น โมซัมบิกเดือน ต.ค. +284% ตลาดแคเมอรูน +413% กานา +117% อิรัก +413% เป็นต้น การเร่งหาตลาดเคมีภัณฑ์เม็ดพลาสติกและตลาดข้าว มีความสำคัญและตลาดผลิตภัณฑ์ยางพารา ต้องเร่งส่งเสริมเพิ่มมูลค่าการส่งออกและการผลิต เช่นส่งเสริมการแปรรูปการทำยางล้อ จูงใจใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น เร่งรักษาตลาดยานยนต์ของไทย จะมีการนำคณะร่วมงานยานยนต์ระดับโลกจับมือกับเอกชนเดินหน้าต่อไป

“คาดว่าภาพรวมทั้งหมดของการส่งออกปี 65 ยังเป็นบวก จากการประมาณการร่วมกับภาคเอกชนล่าสุด ยังมั่นใจว่าเกินเป้าการส่งออกปี 65 กำหนดไว้ +4% คาดว่าจะเพิ่มเกือบหนึ่งเท่าตัว ส่วนมูลค่าตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 9 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มจะเกินกว่า 9 ล้านล้านบาท การส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 65 ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

และนายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ต.ค. 65 ส่งออกสร้างเงินให้ประเทศ 81,937 ล้านบาท -0.2% และ 10 เดือนแรก -0.7% สร้างเงินให้ประเทศ 855,839 ล้านบาท โดยการค้าชายแดน การส่งออกเดือน ต.ค. +4.5% สร้างเงินให้ประเทศ 54,643 ล้านบาท รวม 10 เดือนแรก +17.6% สร้างเงินให้ประเทศ 544,583 ล้านบาท สำหรับประเทศคู่ค้าชายแดน สปป.ลาว เดือน ต.ค. +43.7% สร้างเงินให้ประเทศ 15,168 ล้านบาท 10 เดือนแรก +26.7% สร้างเงินให้ประเทศ 129,422 ล้านบาท มาเลเซีย เดือน ต.ค. -21.7% สร้างเงินให้ประเทศ 14,713 ล้านบาท ยังมีปัญหาเรื่องการส่งออกสินค้าสำคัญไปมาเลเซีย เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ยังได้รับผลกระทบจากการขาดแคนชิบและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก รวมทั้งยางพาราเมื่อโควิดคลี่คลายความต้องการใช้น้ำยางไปผลิตถุงมือยางลดลง 10 เดือนแรก การส่งออกผ่านค้าชายแดนไปมาเลเซีย +4.6% ทำเงินให้ประเทศ 154,685 ล้านบาท กัมพูชาเดือนต.ค. +9.5% สร้างเงินให้ประเทศ 13,563 ล้านบาท 10 เดือนแรก +18.5% สร้างเงินให้ประเทศ 139,099 ล้านบาท และเมียนมา เดือน ต.ค. +6.2% สร้างเงินให้ประเทศ 11,200 ล้านบาท 10 เดือนแรก +26.8% สร้างเงินให้ประเทศ 121,377 ล้านบาท

“การค้าผ่านแดน ซึ่งติดลบเพราะเราหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศมากขึ้น สำหรับจีน เวียดนามและสิงคโปร์ เดือน ต.ค. -8.4% 10 เดือนแรก -21.9% โดยจีน เดือน ต.ค. -8.9 %เนื่องจากมาตรการซีโร่โควิด 10 เดือนแรก -27.4% เวียดนาม เดือน ต.ค. +17.5% สร้างเงินให้ประเทศ 4,370 ล้านบาท 10 เดือนแรก +6.9% สร้างเงินให้ประเทศ 40,499 ล้านบาท สิงคโปร์ เดือน ต.ค. -2.9% 10 เดือนแรก -7.7%

อย่างไรก็ตามการส่งออก ผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดน เราตั้งเป้าจะ +5% แต่ 10 เดือนแรกทำได้ +17.6% การเร่งรัดการเปิดด่านประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เรามีด่านกับประเทศเพื่อนบ้าน 97 ด่าน เปิดได้แล้ว 63 ด่าน ประเทศไทยเปิดรออยู่อีก 8 ด่านรอให้เพื่อนบ้านตอบรับ ถ้าสำเร็จก็จะคล่องตัวเพิ่มขึ้น”นายจุรินทร์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์
คลิปนี้ชัดมาก “แม่น้องไนซ์” พูดเต็มปากเต็มคำ เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก โซเชียลจับตาส่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น