No data was found

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ยืนยัน ‘ยูเนสโก’ ขึ้นทะเบียน ‘ป่าแก่งกระจาน’ เป็นมรดกโลก

กดติดตาม TOP NEWS

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุ 'ยูเนสโก' ขึ้นทะเบียน 'ป่าแก่งกระจาน' เป็นมรดกโลก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กว่า 6 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่นผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นการจัดประชุมผ่านระบบทางไกล ระหว่างวันที่ 16 -31 กรกฎาคม 2564 โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ และเป็นที่น่ายินดีว่าในปีนี้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก

 

นายวราวุธ เปิดเผยต่อว่า พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานนั้น เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และกลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลกรวมถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร ประเทศไทยในฐานะเจ้าของแหล่ง จะต้องปกป้องรักษาแหล่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้คงคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลไว้ให้ลูกหลานต่อไป ซึ่งการที่พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้

 

นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศ ทำให้คนในประเทศเกิดการตระหนัก รู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนทรัพยากรที่เรามีอยู่ด้วย ประโยชน์หลัก ๆ อีกด้วย เช่น 1) ส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาวิจัยในระดับสากล  2) ยกระดับการอนุรักษ์พื้นที่ด้วยการบริหารจัดการที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้คงคุณค่าของแหล่ง เพื่อส่งต่อไปยังอนุชนรุ่นต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น 3) ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชน และ 4) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกองทุนมรดกโลกได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอเหรียญฯ" ตัดสินใจสมัครสว.แล้ว ลั่นไม่กลัวสอบตกเพราะระบบล็อกเลือกตั้ง เหตุมีภาระสำคัญป้องแก้ 112 กลั่นกรองคนทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ
หนุ่มวัยเบญจเพส ป่วยจิตเวช หูแว่ว วิ่งหนีขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้า ก่อนโดดลงมาดับกลางถนนพหลโยธิน-ขาเข้า
"นายกฯ" นำคณะ "สวมชุดผ้าขาวม้า-ผ้าไทย" เดินโชว์กลางเมืองมิลาน อวดสายตาชาวโลก
เกษตร จ.ตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบทุเรียนตายเพราะน้ำเค็มแนะฟื้นฟูต้น,ตัดกิ่ง ”ป้าโต“บอกได้ผลแค่ 2 ปี นำน้ำกร่อยมารดทำให้ใบร่วงเงินหายหลายหมื่น
ชาวบ้าน 2 ตำบล กดดันชลประทานตราดแก้ปัญหาน้ำเค็มเข้าพื้นที่
นาทีชีวิต จนท.ป่าไม้ชัยภูมิ ถูกหมีควายโผล่ตะปบกัดขย้ำ ขณะออกลาดตระเวนเทือกเขาป่าภูเขียว
โคราช จัดยิ่งใหญ่ เทศกาลวันวิสาขบูชาโลก ในงาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี” อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 9 พระองค์ ให้พุทธศาสนิกชนกราบสักการะ พร้อมร่วมกิจกรรมบุญมากมาย
ช่างผมร้านดัง สุดเจ็บใจ ถูกสาวตีเนียน หลอกต่อผมแพงที่สุดในร้าน ก่อนหายตัวไร้ร่องรอย
โคราชจัดใหญ่ งาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี" ปีที่ 14 อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 9 พระองค์ ให้ปชช.ได้กราบสักการะ
จนท.รับกำจัดกากสารเคมีโรงงานวินโพรเสส จว.ระยอง เร่งขนย้าย อะลูมิเนียม ดรอส - กรดกัดแก้ว ล็อตแรก 100 ตัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น