นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. พร้อมทีมผู้บริหาร ร่วมกันปฐมนิเทศผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ‘พลังงานร่วมใจ สร้างงาน พัฒนาชุมชน’ จำนวน 620 คน จาก 15 พื้นที่รอบเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทุกภาคทั่วประเทศ แบบ New Normal ผ่านระบบ video conference ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ กฟผ. จ.นนทบุรี
โดยนายบุญญนิตย์ เผยว่า ผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 620 คน จะเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งอยู่รอบพื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. โดยทำงานลงพื้นที่เก็บข้อมูลชุมชน ทั้งด้านการประกอบอาชีพ การเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน สำหรับนำไปวางแนวทางการดูแลท้องถิ่น การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ Digital Platform สำหรับใช้ประโยชน์ในการขายสินค้าแบบออนไลน์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานเกษตรกรรมเพื่อสนับสนุนการเพิ่มผลผลิตและแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร รวมถึงการนำข้อมูลจากการลงพื้นที่มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนากิจการชุมชนสู่เป้าหมายการเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่สามารถพึ่งพาตนเองได้และเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน
ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนจะได้รับการอบรมด้านเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีจาก กฟผ. ทั้งนี้ กฟผ. ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ ลดปัญหาการว่างงาน บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยการเปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้เข้าร่วม โครงการ ตามนโยบายกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ซึ่งเห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจากโครงการนำร่องเฟสแรกในพื้นที่ กฟผ. แม่เมาะ จ.ลำปาง และได้ขยายพื้นที่เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มเติมอีก 15 พื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนสิรินธร เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนบางลาง เขื่อนรัชชประภา โรงไฟฟ้าจะนะ โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าลานกระบือ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนผาจุก เขื่อนคลองตรอน เขื่อนนเรศวร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 กระทั่งได้ผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 620 คน ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติงานในเดือนพฤษภาคม 2564
