เตือนภัย คนลอยกระทงออนไลน์ ระวังมิจฉาชีพดูดข้อมูล

เตือนภัย คนลอยกระทงออนไลน์ ระวังมิจฉาชีพดูดข้อมูล

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสที่วันนี้ (8 พ.ย.) เป็นวันลอยกระทง คาดว่าประชาชนจำนวนมากจะเดินทางออกไปร่วมกิจกรรมสืบทอดประเพณีสำคัญนี้ แต่อาจมีบางส่วนที่ไม่สามารถไปร่วมกิจกรรมและเลือกใช้บริการการลอยกระทงออนไลน์ ซึ่งหลายปีมานี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่แม้จะไม่ได้ลอยกระทงจริงแต่ก็ได้ร่วมสืบสานประเพณี ได้อธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งทางใจได้ และยังได้ช่วยลดขยะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำเตือนถึงประชาชนที่จะลอยกระทงออนไลน์ว่า ขอให้ระมัดระวังตรวจสอบเว็บไซต์ที่เปิดให้ลอยกระทงออนไลน์ ขอให้ใช้บริการเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และต้องตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ให้ละเอียด เพราะอาจมีการสร้างเว็บไซต์ปลอม ทั้งลักษณะปลอมทั้งหมด หรือทำให้คล้ายคลึงกับเว็บที่เป็นที่รู้จัก แล้วหลอกลวงให้ประชาชนกรอกข้อมูลสำคัญก่อนให้ลอยกระทงและอธิษฐานจิต เช่น กรอกเช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP

จากนั้น อาจมีการนำข้อมูลไปใช้ในทางทุจริต เช่น นำข้อมูลไปเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊ค ไลน์ โดยมิชอบ แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า หรือถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมายได้ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบเว็บไซต์อย่างละเอียดและไม่กรอกข้อมูลสำคัญลงในกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทาง บช.สอท. ยังมีคำเตือนถึงผู้ที่คิดกระทำผิดโดยการหลอกลวงเอาข้อมูลของประชาชนผ่านวิธีต่างๆ ขอให้งดการกระทำเพราะไม่เช่นนั้นจะมีความผิด ฐานฉ้อโกงประชาชนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ ในฐานกระทำโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆ นั้น สามารถเลือกใช้ ระบบการแจ้งเตือนความหนาแน่นผู้ใช้บริการขนส่งมวลชนผ่านแอปพลิเคชัน NAMTANG (เทศกาลลอยกระทง 2565) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เพื่อตรวจสอบข้อมูลความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในสถานี/ท่าเรือปลายทางของระบบขนส่งมวลชนทางรางและทางน้ำที่อยู่ใกล้ หรือสามารถเชื่อมต่อเข้าไปยังพื้นที่จัดงาน และนำมาวางแผนการเดินทางได้

โดยวิธีการรับข่าวสารการแจ้งเตือนในเทศกาลวันลอยกระทงบนแอปพลิเคชัน NAMTANG นั้นสามารถสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน App Store และ Play Store โดยใช้ค้นหาคำว่า “Namtang” หรือ “นำทาง” จากนั้นเข้าเมนูและเลือกหัวข้อเหตุการณ์ และเมื่อกดเลือกเหตุการณ์ที่ต้องการ แอปพลิเคชันจะนำทางท่านไปยังตำแหน่งที่เกิดเหตุการณ์พร้อมข้อมูลรายละเอียดของเหตุการณ์นั้นๆ

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน น.ส.รอยฮาน เจ๊ะเด็ง ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นไปแล้วตนก็ภูมิใจที่พ่อก็ทำหน้าที่ของพ่ออย่างดีที่สุด ก็ขอให้พ่อไปดี ซึ่งตอนนี้ทุกหน่วยงานก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ และต่อไปนี้ตนก็ต้องทำหน้าที่แทนพ่อต่อไป ตนภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ

ส่วนผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ คือ นาย มะนาเซ ไซร์ดี อายุ 32 ปี พบอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ของคนร้ายตกอยู่ จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบประวัติมีหมายจับในคดีความมั่นคง 7 หมาย ที่สำคัญคือ เกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหลายจุด ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 , ลอบวางระเบิดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 , เหตุโจมตีชุดคุ้มครองตำบลบ้านกอแลปิเละ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562 มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดปั้มน้ำมันบางจาก สาขาดอนยางในพื้นที่ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 โดยเป็นผู้ร่วมวางแผนและทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกส่วนหนึ่งเข้าไปก่อเหตุ

พลโท ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ นาย เจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ เป็นผู้ปฏิเสธกลุ่มคนร้ายไม่ให้เข้ามาหลบซ่อนพักอาศัยภายในหมู่บ้านอีกทั้งยังเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามบังคับใช้กฎหมายและเจรจากับคนร้ายเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ายิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บและตัวผู้ใหญ่บ้านเองได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของ นาย เจ๊ะมูหามะญากี เป็นการกระทำที่น่ายกย่องและเชิดชูเกียรติอย่างถึงที่สุด สำหรับเรื่องการจัดการศพ และการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและสิทธิ จะเร่งประสานให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง รองนายก อบต.ดอนรัก ผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น