“เสรีพิศุทธ์” โดนแล้ว!! ศาลปกครองสูงสุด ชี้ จ้างถมที่รุกแม่น้ำแควน้อยจริงพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร นำไปทำสวนหย่อม- ทางเท้าปูด้วยหิน โดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งรื้อถอนออกภาย 30 วัน

"เสรีพิศุทธ์" โดนแล้ว!! ศาลปกครองสูงสุด ชี้ จ้างถมที่รุกแม่น้ำแควน้อยจริง พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร นำไปทำสวนหย่อม- ทางเท้าปูด้วยหิน โดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งรื้อถอนออกภาย 30 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2564 ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นผู้ฟ้อง มีกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนคม กรมเจ้าท่า อธิบดีกรมเจ้าท่า และเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขากาญจบุรีที่ 6 เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-6 กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมเจ้าท่าที่ให้รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในแม่น้ำแควน้อย

ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดีดังกล่าว โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่มีที่ดินบางส่วนที่อยู่นอกโฉนดที่ดินของผู้ฟ้องคดี ซึ่งผู้ฟ้องคดีอ้างว่าเป็นที่งอกริมตลิ่งนั้น เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่า กระแสน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีความรุนแรงและเชี่ยวกราก กัดเซาะที่ดินริมตลิ่งในที่ดินของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีในการขออนุญาตทิ้งหินกันน้ำเซาะ ย่อมไม่อาจเป็นไปได้เลยว่าจะเกิดที่งอกริมตลิ่งออกจากที่ดินของผู้ฟ้องคดี แต่เป็นที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีได้ว่าจ้างให้ถมดินลงไปในแม่น้ำแควน้อยพื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร แล้วผู้ฟ้องคดีได้ทำประโยชน์ในที่ดินส่วนนี้โดยการปลูกต้นไม้ จัดพื้นที่เป็นสวนหย่อมและทำทางเท้า ปูด้วยหินแผ่นไปตามแม่น้ำแควน้อย

การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนการอนุญาตของเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขากาญจนบุรี โดยมีการทิ้งหิน ดิน เกินกว่าแนวเขตที่ดินของผู้ฟ้องคดี ลงในแม่น้ำแควน้อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 จึงเป็นการทิ้งหินถมดินลงในแม่น้ำแควน้อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่าฯ

เมื่อผู้ฟ้องคดีได้ปลูกต้นไม้ทำเป็นส่วนหย่อม และทำทางเท้าซึ่งปูด้วยแผ่นหิน การกระทำดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นการปลูกสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในน้ำ หาได้มีลักษณะเป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามที่ได้รับอนุญาตให้ทิ้งหินกันน้ำเซาะลงในแม่น้ำแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการกระทำสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำแควน้อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ตามมาตรา 117 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขากาญจนบุรี ผู้รับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมเจ้าท่า จึงมีอำนาจตามมาตรา 118 ทวิ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน โดยมีคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ฟ้องคดีรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำในแม่น้ำแควน้อยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

ดังนั้น การที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขากาญจนบุรี มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีดำเนินการรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในแม่น้ำแควน้อยออกให้พ้นเสียจากแม่น้ำภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของปลัดกระทรวงคมนาคมที่ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี จึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ประเด็นอื่นของผู้ฟ้องคดีอีก เนื่องจากไม่อาจทำให้คำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จุดพลุกระตุ้นตลาดรถยนต์กลางปี "ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025" เข้าฟรี 2-6 ก.ค.นี้
เปิดฉาก "ฟาสต์ ออโต โชว์ 2025" จุดพลุเติมพลังกระตุ้นตลาดรถยนต์กลางปี หนุนยอดขาย-สร้างความคึกคัก ทั้งตลาดรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้ว 2-6 ก.ค. ณ ไบเทค
“แพทองธาร” สวมชุดผ้าไทยสีม่วง เข้าสักการะ 8 สิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงวัฒนธรรม ลั่นพลังล้น พร้อมทำงาน ดันซอฟพาวเวอร์
“ชาญชัย” มั่นใจศาลฎีกาฯ เรียกดูแน่ ใบเสร็จค่ารักษา "ทักษิณ" ถึงวันนี้ยังไม่รู้ผ่าตัดอะไร
เปิดประตู ! ด่านบ้านหาดเล็ก รับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน
"ดร.เอ้ สุชัชวีร์ " แถลงการณ์ ยันลาออกปชป. ลั่นไม่ได้ขัดแย้ง แต่ไปเพราะอุดมการณ์
"ฮุน มาเนต" อวยสุด ไม่มีพรรคการเมืองแทนที่ CPP ได้ เชื่อชาวกัมพูชา ยังต้องการ ฮุน เซน เป็นรากฐานมั่นคง
"อดีตผู้พิพากษาอาวุโส” ศาลฏีกา ขยายความ เหตุพยานกลุ่มแพทย์พยาบาล รักษา "ทักษิณ" โดนเรียกไต่สวน วันนี้
"อุตุฯ" เตือน 41 จังหวัด รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก กทม.ก็ไม่รอด
ทีมกรมที่ดินพา "น้อง AI-Din" คว้ารางวัลชนะเลิศสูงสุดในโครงการ Tech for Gov: NextGen GovAI Training Program

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น