วันที่ 22 ก.ค. 2564 ที่กองร้อย ตชด.417 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม รอง ผบช.รรท.ผบก.ตชด.ภาค4 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค8 พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ รอดน้อย ผบ.ร้อย ตชด.417 นายเดชา ชโลธร หน.ส่วนอำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวนายอุทัย หรือสี เพ็ชร์รัตน์ อายุ 33 อยู่บ้านเลขที่ 6/9 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และนายอนุเชษฐ์ หรือเชษฐ์ ศรีทองนาค อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช สองผู้ต้องหาค้ายาเสพติดพร้อมของกลาง ยาบ้า 5.5 แสนเม็ด เฮโรอีนจำนวน 4 กิโลกรัม ยาไอซ์ จำนวน 100 กรัม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อจำนวน 1 คันและโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20. กค. 64 เวลา 21.00 น. ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่417 สืบทราบมาว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายมีพฤติกรรมลักลอบยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง จึงได้วางแผนได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายอุทัย จำนวน 1 มัด (2,000 เม็ด) ในราคา 15,000 บาท และนัดหมายให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณศาลาริมถนน ปากทางเข้าคลองวัง ถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ม.12 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายอุทัยได้ขับรถจักรยานยนต์มาพร้อมกับนายอนุเชษฐ์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทั้งคู่ได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพและยังมียาไอซ์, ยาบ้า และเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณภายในสวนข้างบ้านเลขที่ 6/9 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของ นายอุทัย อีกจำนวนมากจึงได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปที่บ้านเพื่อทำการตรวจยิดของกลางทั้งหมดไว้ ด้านนายอุทัยได้สารภาพอีกว่า ได้รับคำสั่งจากนายโด่ง (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ชาวจ.กระบี่ ให้ไปรับยาเสพติดที่บริเวณริมถนนเซาท์เทิน หลักกิโลเมตรที่ 62 ถนนสาย 44 สุราษฎร์ธานี-กระบี่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายโด่ง จะนำยาเสพติดมาวางไว้ เพื่อให้นายอุทัย นำมาเก็บไว้ และรอรับคำสั่งจากนายโด่ง เพื่อจะเอายาเสพติดส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งโดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 150,000-200,000 บาท ต่อครั้ง จากนั้นนำตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนสัก ดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภทหนึ่ง(ยาบ้า,เเฮโรอีน,ไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและขยายผลจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป ด้านนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดูแลงานด้านยาเสพติด กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินการผู้ค้ายาเสพติดของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในห้วปีงบประมาณ2564 ตั้งแต่ตุลาคม 2563 ถึง กรกฎาคม 2564 สามารถจับกุมคดียาเสพติดทุกข้อหาจำนวน 9771 คดี ได้ผู้ต้องหา 9802 คนได้ของกลางยาบ้า 3,431,757 เม็ด ยาไอซ์ 60.33 กิโลกรัมเฮโรอีน 0.39 กรัม กัญชา 18.61 กิโลกรัม ดำเนินการยึดทรัพย์แล้วจำนวน 21 คดี เป็นเงินกว่า 275 ล้านบาท
สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี