ฝากขัง 71 นักเที่ยวชาวจีนผับลับ “จินหลิง” ปาร์ตี้มั่วยา

ตำรวจ สน.ยานนาวา ส่งฟ้อง 71 นักเที่ยวชาวจีน ผับลับจินหลิง ปาร์ตี้มั่วยาเสพติด ฝากขังศาลแขวงพระนครผัดแรก ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมเปิดตู้เซฟ 5 ตู้หาของกลาง พร้อมเร่งหาตัวเจ้าของร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากที่เมื่อวานนี้ (27ต.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ได้นำตัวผู้ต้องหาเสพยาเสพติดภายในผับจินหลิง ย่านยานนาวา ไปส่งฟ้องต่ออัยการและศาลแขวงพระนครใต้ จำนวน 60 กว่าคน แต่กลับมีผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเพียงแค่ 7 คน ที่เหลือกลับให้การปฏิเสธในชั้นอัยการ จนต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาควบคุมตัวที่ สน.ยานนาวา และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู ซึ่งจะต้องทำสำนวนส่งฟ้องใหม่และนำไปฝากขังต่อศาลแขวงพระนครใต้อีกครั้งในวันนี้รวมทั้งหมด 71 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

พลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวมาในช่วงแรกมีผู้ที่ให้การรับสารภาพ 48 คน แต่เมื่อผู้ต้องหาได้พบกับญาติและทนายความ จึงรวมตัวกันและให้การปฏิเสธในชั้นอัยการ

โดยในวันนี้ทางตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังผัดแรกตามขั้นตอน 71 คน และจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการส่งฟ้องต่อศาล และหักล้างคำให้การปฏิเสธของผู้ต้องหาทุกคน และจะมีการเรียกคณะสืบสวนสอบสวนมาหารือเรื่องการทำสำนวนให้รัดกุมที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ไม่มีพาสปอร์ตก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยการผลักดันออกนอกประเทศ

สำหรับกรณีที่นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า มีนายทุนของผับดังกล่าวบริจาคเงิน 3 ล้านให้กับพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ช่วงก่อตั้งพรรคก่อนหน้านี้ เรื่องดังกล่าวจะมีการนำไปหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า จะเชิญนายสมศักดิ์หรือผู้เกี่ยวข้องของพรรคเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนผู้บริจาคเงินรายดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผับดังกล่าว

นอกจากนี้ พลตำรวจตรี นิติธร ยังได้ลงพื้นที่ไปยังผับจินหลิง เพื่อตรวจสอบตู้เซฟขนาดใหญ่ 2 ตู้ ที่ยังอยู่ภายในผับ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายนำไปเก็บไว้ที่ สน. ยานนาวา ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ สามารถยึดไว้ได้ จำนวน 5 ตู้ และได้สอบถามผู้ต้องหาแล้วว่าใครเป็นเจ้าของและมีรหัสเปิดตู้เซฟ แต่ยังไม่มีผู้ใดยอมรับ

ซึ่งขณะนี้ได้ติดต่อช่างกุญแจไว้เพื่อที่จะเปิดตู้เซฟตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่าข้างในมีอะไร ของกลางจะเป็นยาเสพติดหรือไม่จะต้องรอเปิดตู้เซฟดู หากพบว่าเป็นยาเสพติดก็จะเอาผิดกับเจ้าของผับจินหลิง ส่วนรถหรูที่ทางตำรวจสามารถยึดตรวจสอบจากนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้ได้ทั้งหมด 35 คัน ขณะนี้มีเจ้าของมาแสดงตัวกับทางพนักงานสอบสวน ส่งคืนไปแล้ว 2 คัน ยังเหลืออีก 33 คัน

ส่วนใครเป็นเจ้าของผับนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน หาตัวเจ้าของผับจินหลิง จากการตรวจสอบทางสำนักงานเขต เป็นชื่อชาวจีนที่มาจดลงทะเบียนขอใช้พื้นที่เปิดกิจการ เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับชื่อผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วไม่ตรงตามเอกสารที่ลงทะเบียนไว้ จึงไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นเจ้าของร้านที่แท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เส้นทางท่องเที่ยวล่องแม่โขงเชื่อมจีน-ไทย-ลาว เปิดสัญจรแล้ว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซินเจิ้นเปิด 'ศูนย์สกีในร่ม' ใหญ่สุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์โชว์ 'ชกแผ่นไม้' ในหางโจว
สาววัย 19 ปี ถูกชายบุกห้อง ทำร้าย-ชิงมือถือ โชคดีเพื่อนบ้านช่วยทัน
ฉก.ราชมนู สกัดจับกระสุนปืน ค. - RPG ต้นทางศรีสะเกษ คาดเตรียมส่งเมียนมา
สาวตรังแก้บนเลขเด็ดพ่อแก่พันล้าน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​