ศาลให้รอลงอาญา 2 ปี “พ.ต.ต.เสงี่ยม” นำม็อบปิดสภา ปี 53

ศาลอาญาจำคุก 8 เดือน ปรับ 8 พันบาท พ.ต.ต.เสงี่ยม นำม็อบ นปช.ปิดสภา กดดันรัฐบาลอภิสิทธิ์เมื่อปี 2553 แต่เนื่องจากไม่เคยกระทำผิด ให้รอลงอาญา 2 ปี

ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีชุมนุมปิดสภา ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พันตำรวจตรี เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำ นปช.เป็นจำเลยในความผิดร่วมกันชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ทำร้ายร่างกาย , หน่วงเหนี่ยวกักขัง , ทำให้เสียทรัพย์และอื่นๆ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553

ข่าวที่น่าสนใจ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิด ร่วมกันบุกรุกรัฐสภา จำคุก 1 ปี ปรับ 12,000 บาท แต่จำเลยก็ให้การเป็นประโยชน์ จึงรถโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท อีกทั้งจำเลยยังทำตัวเป็นประโยชน์พยายามป้องกันไม่เกิดเหตุรุนแรง โดยการนำอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ไปคืนให้กับตำรวจทันทีหลังจากเกิดเหตุ และไม่เคยต้องโทษกระทำความผิดมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง

พันตำรวจตรี เสงี่ยม เผยว่า รู้สึกพึงพอใจผลคำพิพากษาที่ศาลให้ความยุติธรรม เนื่องจากการชุมนุมในครั้งนั้นเป็นการชุมนุมตามสิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเองเป็นเพียงแค่ผู้ร่วมชุมนุมไม่ได้เป็นแกนนำ แต่กลุ่มมวลชนไปพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพกพาอาวุธสงคราม และอาวุธปืน 11 มม. อยู่ในรัฐสภา จึงไปยึดอาวุธมาเพราะเกรงว่ามวลชนอาจจะไม่ปลอดภัย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุดังกล่าวตนเองมีเจตนาดี นำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ไปคืนให้แก่ตำรวจทันทีหลังจากเกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงตามมา

ด้านนายกฤษณ์ ขำทวี ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ แม้ว่าในขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้สุขุมได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าไปในรัฐสภาก็ตาม แต่ศาลมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการนำมวลชนไปกดดันเพื่อที่จะเข้าไปในรัฐสภา ทางเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง จึงพิพากษาให้ลงโทษในความผิดดังกล่าวเพียงข้อหาเดียว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องซึ่งเป็นแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาชนประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และกลุ่มคนเสื้อแดงหลายพันคน โดยจำเลยนำกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนขย่มทำลายประตูรั้วอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางปิดทางเข้าออกเพื่อมิให้รัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าประชุมรัฐสภา ทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 บาท หลังจากนั้นจำเลยกับพวกได้ขับรถยนต์ติดตั้งเครื่องขยายเสียงสำหรับใช้ปราศรัยปลุกระดมผู้ร่วมชุมนุมเป็นเหตุให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรี และ สส.ต้องติดอยู่ภายในอาคาร และต้องหลบซ่อนตัวไม่สามารถหลบหนีออกมาได้

นอกจากนี้จำเลยกับพวกยังใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ดูแลอาคารได้รับบาดเจ็บหลายนาย รวมทั้งแย่งอาวุธปืนขนาด 11 มม. และปืน เอ็ม 16 ของเจ้าหน้าที่ไปโดยทุจริต โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด และได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่! "ศุภมาส" ประกาศจัดงาน "อว. Job Fair 2025" เปลี่ยนความฝันให้เป็นอาชีพจริง เปิดรับสมัครงานสำหรับอาชีพยุคใหม่กว่า 150,000 อัตรา
"รองอ้อม ลลิตา" มั่นใจโค้งสุดท้าย คว้าชัยเลือกตั้งนายกเมืองป่าตอง
"สันติสุข" ชี้มั่วมากอ้างอำนาจ"ราชทัณฑ์" พา"ทักษิณ" นอนชั้น 14 ไม่เกี่ยวศาล ไล่ไปหามา เคสไหนเข้าคุกไม่ถึงคืน ออกไปพักห้องหรู รพ.ตร.
"นฤมล" แจงผลสำเร็จโครงการจ้างแรงงานชลประทาน กระจายรายได้เกษตรกร ลุยเป้าหมายให้ครบกว่า 8 หมื่นตน
ตร.รวบมือปาหินใส่รถ "ย่านบางนา-ตราด" พร้อมคุมตัวทำแผน อึ้งสารภาพเคยก่อเหตุมาแล้ว 12 ครั้ง
"น.1" สั่งล่า 2 มือปืนก่อเหตุอุกอาจ บุกยิงหนุ่มเพิ่งพ้นคุก 9 นัด ดับสลด
"เทพไท" เชื่อถ้าศาลฏีกาฯไต่สวนครบ 5 ประเด็น จากปากพยานสำคัญ รวม"วิษณุ" มั่นใจ "ทักษิณ" ต้องกลับนอนคุกจริงๆ
"เสธ.ต๊อด" ยันเอกสารกอ.รมน. ไร้เนื้อหากล่าวหา "อนุทิน" แอบอ้างสถาบันฯ เจ้าตัวโพสต์ติงสื่ออย่าออกข่าวชุ่ยๆ อย่าดึงฟ้าลงต่ำ
ผู้ว่าตราดเปิดโครงการ เทศกาลเรือใบ ดันตราดศูนย์กลางเมืองเรือใบและกิจกรรมทางทะเลเชื่อมโลก เผยสร้างรายได้ท่องเที่ยวยั้งยืน
ดีอี เตือน ข่าวปลอม “จะเกิดแผ่นดินไหวที่ภาคอีสาน” หลอกลวงให้ ปชช.ตื่นตระหนก- เข้าใจผิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น