“อนุชา” เยือนเกาหลีใต้ ร่วมเวทีบริหารจัดการน้ำ MKWF

“อนุชา” เยือนเกาหลีใต้ ร่วมเวทีบริหารจัดการน้ำ Mekong-Korea Water Forum (MKWF) ครั้งที่ 1 สานสัมพันธ์ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-แม่น้ำฮัน เร่งฟื้นฟูความสมบูรณ์ลุ่มน้ำคืนสู่ภูมิภาคอาเซียน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำคณะ ประกอบด้วย ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน เข้าร่วมการประชุม Mekong-Korea Water Forum (MKWF) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคม 2565 ณ สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)

การประชุม Mekong-Korea Water Forum (MKWF) ครั้งที่ 1 เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-ROK Summit) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ณ นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งจัดประชุมคู่ขนานกับการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 เป็นการประชุมระดับผู้นํา ระหว่างผู้นําอาเซียนกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งในครั้งนั้น ประเทศไทยและเกาหลีใต้ได้พัฒนาความร่วมมือความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์หลายด้าน โดยเฉพาะด้านทรัพยากรน้ำ ได้มีการรับรองปฏิญญาแม่น้ำโขง–แม่น้ำฮัน เป็นเอกสารผลลัพธ์สำคัญของการประชุม ซึ่งได้กำหนดทิศทางความร่วมมือลุ่มน้ำโขง–สาธารณรัฐเกาหลี ในอนาคต

ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไทยและเกาหลีใต้ได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินการด้านทรัพยากรน้ำร่วมกัน 3 ด้าน (3 Partnerships หรือ 3Ps) ได้แก่ หุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจสีเขียว หุ้นส่วนด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และหุ้นส่วนด้านสาธารณสุข รวมถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดในกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ทั้งในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาค

ข่าวที่น่าสนใจ

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีที่ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ได้ประสานความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งการประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน

“สำหรับประเทศไทย แม่น้ำโขงเป็นเส้นเลือดใหญ่สำคัญที่หล่อเลี้ยงประชากรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ใน 8 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 28 อำเภอ 100 ตำบล ตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา ประชาชนริมน้ำโขงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ ส่งผลต่อความแปรปรวนของปริมาณน้ำ คุณภาพน้ำและระบบทางนิเวศ ซึ่งสิ่งนี้เป็นความท้าทายประเทศที่อาศัยแม่น้ำโขงในการดำรงชีวิต โดยต้องร่วมมือกันฟื้นฟูและรักษาคุณภาพทรัพยากรน้ำให้กลับมาสมบูรณ์ มีความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำ อาหาร พลังงาน เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจระดับภูมิภาค” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูง(High Level Dialogue) โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมอภิปรายเรื่องความร่วมมือด้านน้ำในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และธรรมาภิบาลด้านการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำโขงภายใต้ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งพบปะหารือกับผู้บริหาร K-Water เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะและส่งเสริมความร่วมมือด้านน้ำระหว่างไทยกับ K-Water และเยี่ยมชมโครงการบริหารจัดการน้ำของเกาหลีใต้ อาทิ สถานีโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงซีฮวา และสถานีผลิตน้ำสะอาดฮวาซอง เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สอศ. เปิดไทม์ไลน์ กำหนดสอบและบรรจุครูผู้ช่วย ว.16 และ ว.17 256 อัตรา พร้อมเรียกบรรจุ ว.14 เพิ่มอีก 182 อัตรา
"ดร.สามารถ" ย้ำภัยดิจิทัลรุนแรง เตือนระวังตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์ แนะรัฐตั้งศูนย์บัญชาการ NASC จัดการจบในจุดเดียว
"บิ๊กเล็ก" แจงปล่อยเชลยศึก 12 พ.ย. เป็นแค่คาดการณ์ ต้องยึดหลักเขมร ทำตามเงื่อนไขครบหรือไม่ ยันไม่มีเปิดด่านจนกว่าเรื่องจบทุกอย่าง
"กรมชลฯ" เตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หลังเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที
“พล.ท.นันทเดช” แนะทำ 3 ข้อ ก่อนถึงวันปล่อยตัว "18 เชลยศึก" เตือนเขมรไว้ใจได้ยาก ต้องคิดทำรอบคอบ ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ
ชายวัย 56 คลุ้มคลั่ง ขับรถพุ่งชนกำแพงบ้าน อ.บ้านหลวง – ไร้เจ็บ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​