เอกชน เตรียมยื่น 4 แนวทาง ช่วย SMEs ให้นายกฯ พิจารณาด่วน 22 ก.ค.นี้

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เตรียมยื่นเสนอแนวทางช่วยเหลือ SMEs ที่กำลังเจอปัญหาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเร่งด่วน ในที่ประชุม ศบศ. วันพฤหัสนี้(22 ก.ค.) เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ในสถานการณ์วิกฤต

วันนี้(20 ก.ค.64) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังเผชิญปัญหาในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยได้เสนอแนวทางต่อภาครัฐไปแล้วหลายอย่างโดยเฉพาะด้านการเงิน แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่

 

ดังนั้น ทั้ง 2 หน่วยงานมีความเห็นร่วมกันในการที่จะเสนอท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม 4 แนวทาง ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบศ. ในวันที่ 22 ก.ค. ดังนี้

1. ให้พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันความเสียหายผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในช่วงนี้ได้มากขึ้น
2. พิจารณาให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ NPL ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดจนถึง 3 ปี นับจากสิ้นสุดช่วงโควิด ไม่มีประวัติข้อมูลที่บ่งบอกถึงประวัติการชำระหนี้หรือสินเชื่อใน Credit Bureau (บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด)
3. ขอให้พิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยกู้ตามประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เขียนไว้ว่า “ให้สภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ยังพอมีศักยภาพ” โดยให้เป็นดุลยพินิจของสถาบันการเงิน ซึ่งการเข้มงวดกับคำว่าศักยภาพที่ยึดโยงกับรายได้ในอนาคตที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์วิกฤติไม่ปกติจะเป็นอุปสรรคลำดับแรก ที่สถาบันการเงินจะยังไม่พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็น NPLs จากผลกระทบของ COVID-19
4. ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข โดยการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการ SMEs

นอกเหนือจากแนวทางข้างต้น นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินแนวทางเร่งด่วนในการช่วยเหลือ SME เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงโควิด โดยเริ่มจากขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพให้ชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าบางส่วน ขยายระยะเวลาเรียกเก็บหนี้ ลดระยะเวลาชำระหนี้ และเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ลูกจ้าง/พนักงาน โดยจ่ายเงินเดือนทุก 15 วัน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อระดมความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดทำ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) และขอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มธุรกิจเพื่อประคองเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ ภาคส่งออก ภาคก่อสร้าง และโรงงานต่างๆ ด้วย

สำหรับสภาอุตสาหกรรมฯ ได้จัดตั้งกองทุน ส.อ.ท. ช่วยไทยสู้ภัยโควิด-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข ทั้งการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และประชาชน, สร้างห้องความดันลบ, จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและสภาอุตสาหกรรมฯ ยังจะเข้าไปสนับสนุนโครงการ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มเติม โดยจัดหาสิ่งของที่จำเป็นและยาเข้าไปสมทบ

หรือการช่วยเหลืออื่นๆ ที่ภาคสาธารณสุขมีความจำเป็น นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางความช่วยเหลือเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ อาทิ การผลักดันโครงการ Faster Payment ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะลดระยะเวลา Credit term ให้แก่คู่ค้าของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ในระยะเวลา 30 วันต่อไปจนถึงสิ้นปี ความร่วมมือกันในการจัดทำสินเชื่อ Supply Chain Factoring เพื่อช่วย SMEs โดยจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียน Made in Thailand แล้วด้วย

นอกจากนี้ ยังได้หารือกันถึงความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ส่งเสริม SME ให้จัดทำบัญชีเดียว ผ่านการเสริมรากฐานทักษะความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ และเพิ่มศักยภาพ SME เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตระยะยาวซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องผ่าน LiVE Platform การช่วยเหลือแรงงานที่ตกงานจากสถานการณ์ COVID-19 และความร่วมมือในกองทุนนวัตกรรม

โดยจะได้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำรายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ทันกับสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบัน แต่ในระยะยาวก็จะได้จัดทำแนวทางพัฒนาและช่วยเหลือ SMEs ด้านอื่นๆ เพิ่มเติม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จุดพลุกระตุ้นตลาดรถยนต์กลางปี "ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025" เข้าฟรี 2-6 ก.ค.นี้
เปิดฉาก "ฟาสต์ ออโต โชว์ 2025" จุดพลุเติมพลังกระตุ้นตลาดรถยนต์กลางปี หนุนยอดขาย-สร้างความคึกคัก ทั้งตลาดรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้ว 2-6 ก.ค. ณ ไบเทค
“แพทองธาร” สวมชุดผ้าไทยสีม่วง เข้าสักการะ 8 สิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงวัฒนธรรม ลั่นพลังล้น พร้อมทำงาน ดันซอฟพาวเวอร์
“ชาญชัย” มั่นใจศาลฎีกาฯ เรียกดูแน่ ใบเสร็จค่ารักษา "ทักษิณ" ถึงวันนี้ยังไม่รู้ผ่าตัดอะไร
เปิดประตู ! ด่านบ้านหาดเล็ก รับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน
"ดร.เอ้ สุชัชวีร์ " แถลงการณ์ ยันลาออกปชป. ลั่นไม่ได้ขัดแย้ง แต่ไปเพราะอุดมการณ์
"ฮุน มาเนต" อวยสุด ไม่มีพรรคการเมืองแทนที่ CPP ได้ เชื่อชาวกัมพูชา ยังต้องการ ฮุน เซน เป็นรากฐานมั่นคง
"อดีตผู้พิพากษาอาวุโส” ศาลฏีกา ขยายความ เหตุพยานกลุ่มแพทย์พยาบาล รักษา "ทักษิณ" โดนเรียกไต่สวน วันนี้
"อุตุฯ" เตือน 41 จังหวัด รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก กทม.ก็ไม่รอด
ทีมกรมที่ดินพา "น้อง AI-Din" คว้ารางวัลชนะเลิศสูงสุดในโครงการ Tech for Gov: NextGen GovAI Training Program

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น