กทท. เผยคืบหน้าพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 1.1 แสนล้าน

การท่าเรือแห่งประเทศไทย เผยโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่าลงทุนรวม 1.1 แสนล้านบาท ขณะนี้คืบหน้าแล้ว 5% คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ส่วนแรกให้เอกชนกลางปี 2566 และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2568 ตั้งเป้าเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า Top 10 ของโลก

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โดยได้จ้างเหมากิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซีเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ในวงเงิน 21,230 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ส่งมอบงานก่อสร้างงานทางทะเลในส่วนของงานพื้นที่ถมทะเล 1 (Key Date 1) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินงานพื้นที่ถมทะเล 2 (Key Date 2) ได้แก่ การขนย้ายดินเลน การถมทราย ฯลฯ คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ กทท. ได้ภายในสิ้นปี 2565

 

 

นอกจากนี้ กิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซี มีแผนที่จะเพิ่มเรือขุดลอกอีก 2 ลำ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขุดมากกว่าเดิม อีกทั้งเร่งรัดก่อสร้างท่าเรือชั่วคราวเพื่อนำหินไปก่อสร้างคันหินล้อมพื้นที่ท่าเทียบเรือ E0 ท่าเทียบเรือ F ท่าเรือบริการ และท่าเรือชายฝั่งของโครงการ ปัจจุบัน หลักผูกจอดเรือชั่วคราว จุดที่ 1 และ 2 พร้อมใช้งานแล้ว ส่วนหลักผูกจอดเรือชั่วคราวจุดที่ 3 และ 4 จะพร้อมใช้งานภายในเดือนกันยายน 2565 ขณะนี้ก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 5% ซึ่งล่าช้ากว่าแผนฯ ประมาณ 100 วัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือ F 1,000 เมตร ให้บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด เอกชนคู่สัญญา ภายในกลางปี 2566 และส่งมอบพื้นที่ครบ 2,000 เมตร ประมาณเดือนพ.ค. ปี 2568

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ บริษัท จีพีซีฯ เริ่มบริหารจัดการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ภายในปี 2568 และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2568

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศเทียบเท่ามาตรฐานสากล มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 1.1 แสนล้านบาท บนพื้นที่ 2,846 ไร่ แบ่งเป็น การลงทุนโดยการท่าเรือ 50,000 ล้านบาท และเอกชนลงทุน 60,000 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี

 

ประกอบด้วยท่าเทียบเรือตู้สินค้า จำนวน 4 ท่า คือ F1, F2, E1, E2 มีขนาดน้ำลึก 18.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีความกว้าง 920 เมตร สามารถรองรับตู้สินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี ซึ่งเมื่อเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับความจุตู้สินค้า เพิ่มเป็น 18 ล้าน ที.อี.ยู.ต่อปี จากปัจจุบันที่ 11 ล้านที.อี.ยู ต่อปี ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า Top 10 ของโลก

 

 

 

 

 

 

สำหรับข้อได้เปรียบของที่ตั้งประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางในทวีปเอเชีย จากเหนือสู่ใต้ เชื่อมจีน สู่มาเลเซีย จากตะวันออก-ตะวันตก (เวียดนาม-เมียนมา) และตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย จึงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของการลงทุนเพื่อเชื่อมโยงอาเซียนและเชื่อมโยงโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ไทยจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเอเชียในทศวรรษนี้ และท่าเรือแหลมฉบังมีปริมาณตู้สินค้าก้าวสู่ในอันดับท็อป 10 ของโลก

ขณะที่ในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ช่วง 9 เดือน ปี 2565 (ตุลาคม 2564 – มิถุนายน 2565) พบว่า การมีรายได้สุทธิ 11,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.63% จากปีก่อน จากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนการเติบโตของตู้สินค้า ที่ขยายตัวสอดคล้องกับการส่งออก

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.รวบมือปาหินใส่รถ "ย่านบางนา-ตราด" พร้อมคุมตัวทำแผน อึ้งสารภาพเคยก่อเหตุมาแล้ว 12 ครั้ง
"น.1" สั่งล่า 2 มือปืนก่อเหตุอุกอาจ บุกยิงหนุ่มเพิ่งพ้นคุก 9 นัด ดับสลด
"เทพไท" เชื่อถ้าศาลฏีกาฯไต่สวนครบ 5 ประเด็น จากปากพยานสำคัญ รวม"วิษณุ" มั่นใจ "ทักษิณ" ต้องกลับนอนคุกจริงๆ
"เสธ.ต๊อด" ยันเอกสารกอ.รมน. ไร้เนื้อหากล่าวหา "อนุทิน" แอบอ้างสถาบันฯ เจ้าตัวโพสต์ติงสื่ออย่าออกข่าวชุ่ยๆ อย่าดึงฟ้าลงต่ำ
ผู้ว่าตราดเปิดโครงการ เทศกาลเรือใบ ดันตราดศูนย์กลางเมืองเรือใบและกิจกรรมทางทะเลเชื่อมโลก เผยสร้างรายได้ท่องเที่ยวยั้งยืน
ดีอี เตือน ข่าวปลอม “จะเกิดแผ่นดินไหวที่ภาคอีสาน” หลอกลวงให้ ปชช.ตื่นตระหนก- เข้าใจผิด
ไม่มีคำประณาม "ชาวเน็ต" ถาม "รอมฏอน" โพสต์แค่เสียใจโจรใต้ สังหารโหดชาวบ้าน เร่งรัฐเจรจาสันติภาพ
นราธิวาสเดือด! "โจรใต้" ถล่มยิงบ้าน ดับ 3 เจ็บ 2 ราย วันเดียวกัน พบป้าวัย 76 ถูกยิงดับกลางถนน
"ผอ.รพ."เมาแล้วขับ เจรจารอบ 3 ยอมจ่ายเยียวยาผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย
"กรมอุตุฯ" เตือน 42 จังหวัด รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน กทม.โดนด้วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น