นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ แห่งอิสราเอลกล่าวว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์กับตัวแปรเดลต้านั้นจัดว่าอ่อนแอกว่าที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคาดหวังไว้ เนื่องจากยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อถึง 855 คน ทำให้ไม่สามารถเชื่อมันได้ว่า วัคซีนช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงและรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการต่อไปในการจัดการกับไวรัสโควิด 19โดยคำนึงถึงจำนวนที่ติดเชื้อและเสียชีวิตในอิสราเอล ในช่วงหนึ่งเบนเน็ตต์ได้กล่าวว่า การกลายพันธุ์ของสายพันธุ์เดลต้าเป็นเรื่องที่กำลังเผชิญกันทั่วโลก และสายพันธุ์นี้มีความก้าวหน้ามาก แม้แต่ในประเทศที่ได้รับวัคซีนแล้ว เช่น สหราชอาณาจักร อิสราเอลและสหรัฐอเมริกา
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเริ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนมีนาคม อย่างไรก็ดีแม้ว่าจำนวนผู้ป่วยรายวันจะพุ่งสูงต่อเนื่อง แต่การเจ็บป่วยที่ถึงขั้นรุนแรงนับว่ายังมีจำนวนที่ไม่สูงมากนัก ทำให้มองว่าเป็นเพราะการรับวัคซีน ทำให้สามารถยับยั้งความรุนแรงของไวรัสได้
ในการประชุมนอกจากจะพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนแล้ว ยังมีการพูดถึงเรื่องการจ้างงานบุคลากรการแพทย์ โดยรัฐมนตรีต่างเห็นพ้องต้องกันว่าพนักงานทุกคนที่โรงพยาบาลจ้างให้ช่วยในช่วงนี้ จะยังคงจ้างงานต่อไปจนกว่าจะผ่านงบประมาณของรัฐ ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ธุรการและฝ่ายสนับสนุนอื่นๆ หลายพันคนจากศูนย์การแพทย์ 30แห่งทั่วประเทศ ได้หยุดงานประท้วงเกี่ยวกับการว่าจ้างงาน การหยุดงานประท้วงสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี และพนักงานทุกคนตกลงที่จะกลับไปทำงานอีกครั้งหลังจากมีการทำข้อตกลงระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสหภาพแรงงาน ว่าจะยังคงมีการจ้างงานต่อไป จนกว่าจะมีการกำหนดงบประมาณของรัฐออกมา พนักงานทุกคนที่จ้างงานในช่วง COVID- 19 โรคระบาดจะยังคงอยู่ในงานของพวกเขา และจะมีการหารือเกี่ยวกับการเพิ่มค่าจ้างสำหรับคนงานเหล่านี้กับกระทรวงการคลังต่อไป