“ศาลปกครอง” พิพากษา BTSC ชนะคดี ให้ “กทม.-KT” ชำระหนี้กว่า 1.17 หมื่นล้าน

"ศาลปกครอง" พิพากษา BTSC ชนะคดี ให้ "กทม.-KT" ชำระหนี้กว่า 1.17 หมื่นล้าน

วันที่ 7 ก.ย. 65 ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1242/2564 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรุงเทพมหานคร ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว)

โดยคดีนี้ BTSC ได้ฟ้อง กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน กระทำผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร สัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 จากการที่ไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562 แจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จำนวนเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท จึงนำคดีมาฟ้อง

โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กทม.จะต้องร่วมจ่ายหนี้ค้างชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการฯ ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ค้างชำระ ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวม 11,754 ล้านบาท แบ่งเป็น
– ส่วนต่อขยายที่ 1 โดยแยกเป็นหนี้เงินต้น 2,199 ล้านบาท ดอกเบี้ย 149 ล้านบาท รวม 2,348 ล้านบาท
– ส่วนต่อขยายที่ 2 โดยเป็นหนี้เงินต้น 8,786 ล้านบาท ดอกเบี้ย 619 ล้านบาท รวม 9,406 ล้านบาท
โดยให้ชำระภายใน 180 วัน นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ศาลฯ ได้ให้เหตุผลว่า เมื่อพิจารณาถึงนิติสัมพันธ์ ข้อผูกพันตามสัญญา บันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่1 และส่วนต่อขยายที่1 ระหว่างกทม.กับ KT และจากข้อเท็จจริงตามคำโต้แย้งของ KT จึงเห็นได้ว่าการที่ กทม. ได้ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรในกรุงเทพมหานคร เป็นการดำเนินกิจการบริการสาธารณะที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกทม. ถึงแม้ กทม. ได้ว่าจ้างหรือมอบหมายให้ KT ซึ่งเป็นวิสาหกิจ โดยมี กทม. เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.98 เป็นผู้บริหารโครงการดังกล่าว ซึ่งการบริหารโครงการของ KT ตามสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงระหว่างกทม. และ KT มิใช่เป็นการแสวงหาประโยชน์หรือกำไรแต่เพื่อให้การดำเนินกิจการสาธารณะของกรุงเทพมหานคร มีความคล่องตัวเกิดประสิทธิภาพและบรรลุผล เห็นได้จากการที่กทม.ยังมีหน้าที่สนับสนุนค่าบริการเดินรถและซ่อมบำรุงให้แก่ KT เพื่อนำไปชำระให้แก่ BTSC ตามสัญญา

ดังนั้น เมื่อ KT มีหนี้ค้างชำระตามสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ กับ BTSC กทม. จึงต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ดังกล่าวกับ KT ให้แก่ BTSC ด้วย

ขณะที่ทางด้านตัวแทนของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยระบุว่า ทางกทม. และ KT จะนำคำพิพากษาในวันนี้ (7 ก.ย.) เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด KT ในวันพรุ่งนี้ ( 8 ก.ย.) เวลาประมาณ 08.30 น. เพื่อนำคำพิพากษามาพิจารณาและรายงานผู้ว่าฯ กทม. ให้ทราบก่อนยื่นอุธรณ์ภายใน 30 วัน

 

สำหรับคดีพิพาทนี้ สืบเนื่องจากทางกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมปทานกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC พัฒนาส่วนต่อขยายถึงปัจจุบันคือ ช่วงอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ซึ่งได้มีการจ้าง BTS เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมถึงการวางระบบรถไฟฟ้าและการซ่อมบำรุง

สำหรับ ภาระหนี้ต่างๆ ที่บริษัทกรุงเทพธนาคม และ กทม. ค้างจ่ายให้กับ BTSC เพิ่มสูงกว่า 4 หมื่นล้านบาทแล้ว แบ่งเป็น
– ค่าจ้างจากการเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) กว่า 2 หมื่นล้านบาท
– ค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น