ป.ป.ช. ส่งสำนวนให้อัยการ คดี”นายก อบต.ราชาเทวะ”พร้อมพวก เอื้อเอกชนซื้อรถดับเพลิง ปลอมแปลงเอกสาร

ป.ป.ช. เตรียมส่งสำนวนไต่สวน นายก อบต.ราชาเทวะ พร้อมพวก เอื้อเอกชนซื้อรถดับเพลิง ปลอมแปลงเอกสาร ไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และส่ง กกต. พิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง

วันนี้ (16ก.ค.64) เวลา 14.00 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะ โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวผ่าน โปรแกรมซูม ถึงกรณีการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัย แบบกระเช้าบันไดสูงไม่น้อยกว่า 22 เมตร ขนาด 10 ล้อ จำนวน 1 คัน ในราคา 33,920,000 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งมี นายทรงชัย นกขมิ้น เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ พร้อมพวกผู้ร่วมกระทำการอีก 14 คนในสมัยนั้ย โดย มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดฐานจงใจทอดทิ้ง หรือ ละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือ ปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 90/1

สำหรับการไต่สวนข้อเท็จจริง ระบุว่า ในปี พ.ศ.2555 องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ โดย นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ ได้ดำเนินการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัย แบบกระเช้าหอน้ำ พร้อมบันไดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 33,950,000 บาท โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะฯ ประกอบด้วย นายสุนทร อ่อนแก้ว นิติกร รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ ปัจจุบัน ถึงแก่ความตายแล้วจึงมีคำสั่งระงับฟ้อง ส่วนนายณธัชพงษ์ ศรีแก้ว นักพัฒนาชุมชน 5 องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ นายเดชา เพ็ชรไทย เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 4 องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ และนายวันชัย สุวรรณวีรกุล ครูชำนาญการ สังกัดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ไม่มีมูลความผิดทางอาญา แต่การกระทำดังกล่าวมีมูลเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง

โดยหลังจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งไปยังผู้บังคับบัญชา หรือ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบอีกด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.ถอดกล่องดำเครื่องบินตำรวจ ตกทะเลประจวบฯ เตรียมส่งให้แคนาดาหาพิสูจน์สาเหตุ
เร่งล่าตัว "โจรใต้" ลอบวางบึ้ม ตร.ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง นราธิวาส เจ็บ 3 นาย
“ภูมิธรรม” แจงปมถอยกำลังทหารปราสาทตาเมือนธม ทำตามกรอบ MOU 43 ยืนยันไม่ทำไทยเสียดินแดน
ผู้ประกอบการเกาะช้าง-ททท.ตราดระบุนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากกว่าทุกปี
ชัดเจน! เปิดภาพล่าสุด “ทหารไทย” ยืนหยัดบนตาเมือนธม คนไทยแห่ชื่นชม
สีจิ้นผิงเตรียมเยือนรัสเซีย 7-10 พค.
เพจดังปูดอีก หวั่นใจ "ดิว อริสรา" เบี้ยวหนี้ "เมย์ วาสนา" ปมยืมของหรู เตือนรีบกลับไทยก่อน 20 พ.ค.นี้ ไม่งั้นบานปลายหนัก
มุกดาหาร พบอีกผู้ป่วยโรค “แอนแทรกซ์” รายใหม่ 1 ราย รวมสะสมแล้ว 3 ราย
คนร้ายขับรถพุ่งชนประตูสนามบินฟิลิปปินส์ดับ 2 คน
(สหรัฐ)วอร์เรน บัฟเฟตต์ประกาศยุติบทบาทซีอีโอเบิร์กเชียร์ แฮธะเวย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น