เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว ได้มีการนำเสนอข่าวการตัดสินของศาลประชาชนนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอ่านคำพิพากษาคดี นางติ๊นา นางตุ๊กติ๊ก กับพวก รวม 6 คน กระทำความผิดในข้อหานำพาคนเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ,การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และการปิดบังการกระทำความผิด โดยการกระทำของจำเลย 5 คน เป็นการกระทำผิดโดยเจตนา เพราะช่วงเวลาบุญปีใหญ่ลาว เชื้อโควิดได้ระบาดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในประเทศไทย แต่จำเลยทั้งหมด ยังละเมิดคำสั่งปิดพรมแดน นำพาคนไทยเข้าเมืองผิดกฎหมาย
จำเลยที่ 1 นางพาวะดี วิพากอน หรือตุ๊กติ๊ก อายุ 26 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านหลัก 2 เมืองสาละวัน แขวงสาละวันเป็นผู้ติดต่อกับคนไทย 2 คน ให้ลักลอบข้ามแดน ทั้งรับ-ส่ง และติดเชื้อโควิด จำเลยที่ 2 นางมอนมีนา สุดทิดา หรือติ๊นา อายุ 22 ปี อาชีพนักศึกษา อยู่บ้านโพนสะหว่าง เมืองจันทะบุลี เป็นผู้นำพาคนไทยเที่ยวในนครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นผู้ติดเชื้อโควิด ก่อนจะกลายเป็นคลัสเตอร์ จำเลยที่ 3 ท้าวพาน ไซยะลาด อายุ 46 ปี อาชีพกรรมกร อยู่บ้านหมากนาวเหนือ เมืองปากงึ่ม นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นผู้พาคนไทย และนางพาวะดี ลักลอบเข้าประเทศไทย โดยเรือหางยาว
ส่วน จำเลยที่ 4 ท้าวพูใส สีใส อายุ 34 ปี อดีตตำรวจสื่อสาร อยู่บ้านโพสสะหว่างใต้ นครไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต เป็นผู้ให้การสนับสนุนนางพาวะดี และใช้อำนาจหน้าที่ตำรวจช่วยคนไทย จำเลยที่ 5 นางสอนนาลี ดวงสะหวัด หรือนิน่า อายุ 21 ปี อาชีพเสริมสวย อยู่บ้านสะหนามไซ นครไกสอนพมวิหานเป็นผู้ไปรับคนไทย ที่ลักลอบขัามแดน มาจากฝั่งมุกดาหาร โดยว่าจ้างคนไทยขับเรือหางยาวมาส่ง และจำเลยที่ 6 ท้าวสมปะสง สุลิยะวงสา หรือ หำ อาชีพกรรมกร อยู่บ้านท่าแร่ นครไกสอน พมวิหาน เป็นผู้ขับรถจัมโบ้ พาคนไทยไปหานางพาวะดี
ทั้งนี้ ศาลประชาชนนครหลวงเวียงจันทน์ ได้มีคำพิพากษา “ตัดอิสรภาพ” ของจำเลยทั้ง 6 คนดังนี้
– นางพาวะดี วิพากอน จำคุก 5 ปี 1 เดือน 15 วัน ปรับไหม 52,500,000 กีบ
– นางมอนมีนา สุดทิดา จำคุก 3 ปี 7 เดือน 15 วัน ปรับไหม 27,500,000 กีบ
– ท้าวพาบ ไซยะลาด จำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับไหม 25,000,000 กีบ
– ท้าวพูใส สีสะหวัน จำคุก 3 ปี 7 เดือน 15 วัน ปรับไหม 27,500,000 กีบ
– นางสอนนาลี ดวงสะหวัด จำคุก 1 ปี 7 เดือน 15 วัน ปรับไหม 25,000,000 กีบ
– ท้าวสมปะสง สุลิยะวงสา จำคุก 1 ปี 7 เดือน 15 วัน ปรับไหม 25,000,000 กีบ