วันนี้ (11 ส.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเขียนภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในคอนเซปท์ภาพ “ต้นน้ำต้นไม้” ที่บริเวณฝาผนังข้างโรงแรมเชียงใหม่วโรรส บูติค โฮเต็ล สี่แยกถนนท้ายวัง ตำบลช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม เป็นต้นมานั้น นอกจากทีมงานครูอะไหล่และบรรดาศิลปินจิตอาสาท่านอื่นๆแล้ว ยังมีเด็กหญิงน้อยๆคนหนึ่งคือน้อง “ริตา” หรือ ด.ญ.ภูริตา โตสุนทร ศิลปินอายุ 9 ขวบ ที่มากับคุณพ่อคือนายสัญชัย โตสุนทร และนางภัทรา วิทยวีระชัย หรือแม่นุ่น คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แม้ฝนตกแดดออกหรืออากาศจะเป็นเช่นไร ก็จะเห็นน้อง “ริตา”มีความสุขกับการวาดแต่งแต้มภาพดอกไม้ ตามที่ได้รับมอบหมาย คู่กับน้องนาเดียร์ ศิลปินจิตอาสา อีกท่านหนึ่ง อย่างที่เข้ากันได้ดี และต่างทำหน้าที่อย่างมีความสุขกับการได้วาดภาพสำคัญยิ่งในครั้งนี้
คุณพ่อคุณแม่น้องริตา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นว่าลูกมีความชื่นชอบในศิลปะ และมักจะเขียนภาพลายเส้นต่างๆที่บ้านอยู่เสมอ ประกอบกับทางครอบครัวมักจะพูดถึงโครงการสตรีทอาร์ตคิงภูมิพลของทีมครูอะไหล่บ่อยครั้ง และพวกเราเป็นครอบครัวที่รัก เคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อลูกได้ยินก็เก็บความรู้สึกต่างๆไว้ กระทั่งวันหนึ่งน้องริตานำผลงานศิลปะของตนเองออกไปให้ประมูล ปรากฎว่าได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และน้องริตาเองได้มาเสนอคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากจะมอบเงินทุนในการช่วยเหลือทีมสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งอุปกรณ์ อาหารการกินเพราะน้องริตาอยากช่วยเหลือในฐานะที่ทำงานศิลปะเหมือนกัน จากนั้นก็ได้เดินทางไปพบครูอะไหล่ ที่โรงเรียนสอนศิลปะของครูอะไหล่และมีการมอบเงินทุนให้จำนวน 5,000 บาท ต่อจากนั้นได้ตัดสินใจเข้าเรียนศิลปะที่โรงเรียนของครูอะไหล่ และเมื่อมีโครงการสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล ที่ร่วมกับมูลนิธิยังมีเรา และสถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้มีโอกาสไปเขียนภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่จังหวัดนครพนม เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางครูอะไหล่ได้ให้น้องริตามีส่วนร่วมในผลงานชิ้นนี้ โดยให้ไปออกแบบลวดลายเส้นแบลค์กราวน์ตามที่ถนัด และนำมาประกอบกับภาพของทีมงานครูอะไหล่ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอย่างลงตัวและสวยงาม ต่อมาเมื่อมีโครงการเดินทางไปวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณืที่เชียงใหม่ น้องริตาจึงไม่พลาดที่จะเข้าร่วมกิจกรรมอีกครั้ง โดยในครั้งนี้รับผิดชอบในการเขียนดอกไม้ประกอบภาพที่เชียงใหม่ ยืนยันว่าครอบครัวจะส่งเสริมทางด้านศิลปะแก่น้องตลอดไป
น้องริตา บอกว่า ตนชอบงานศิลปะในแนวดูเดิ้ลอาร์ต และ Abstract การเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ครูอะไหล่เป็นคนชวนมาร่วมทีม จากการที่เธอไปเป็นลูกศิษย์ครูอะไหล่ที่สถาบันสอนศิลปะ สำหรับการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆรู้สึกสนุกดี ระหว่างทางมีภูเขาด้วย ส่วนเรื่องการเรียนขณะนี้กำลังเรียนในรูปแบบโฮมสคูล และทุกวันนี้มีความสุขกับการเขียนภาพมาก ส่วนการทำงานร่วมกับพี่นาเดียร์นั้น สนุกเพราะพี่เขาอารมณ์ดี บางครั้งยังแอบไปนอนห้องพี่นาเดียร์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึง กำหนดการในการส่งมอบ ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันพรุ่งนี้ 12 สิงหาคม 2565 ที่ โรงแรมเชียงใหม่ วดรรส บูติค โฮเต็ล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลา 11.00 – 11.30 น.
ภายในกิจกรรมมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ โดย วงดุริยางค์ จากมณฑลทหารบกที่ 33 นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าว จากสถานนีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ตัวแทนจาก “มูลนิธิยังมีเรา” กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการ “สตรีทอาร์ตคิงภูมิพล”
ถัดมานายชวัช จำปาแสน หรือครูอะไหล่ ศิลปิน สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล ผู้ก่อตั้งโครงการฯ กล่าวถึงความหมาย และที่มาของภาพ “ต้นน้ำ ต้นไม้” ต่อจากนั้น นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความร่วมมือกับโครงการ สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล สุดท้าย ตัวแทนจาก “มูลนิธิยังมีเรา” มอบภาพที่ระลึก พระบรมสาทิสลักษณ์ ให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับโครงการ สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล ครูอะไหล่ พร้อมทีมศิลปินจิตอาสา ได้ร่วมกันวาดมากแล้ว 10 ภาพในสถานที่ต่างๆ ต่อมาได้ร่วมกับ“มูลนิธิยังมีเรา” เพื่อวาดภาพต่ออีก 6 ภาพ 6 จังหวัดในปี 2565 โดยภาพแรกวาดที่ แลนด์มาร์ค พญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยได้ส่งมอบให้กับจังหวัดนครพนม ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2565 และล่าสุดภาพที่ 2 ที่บริเวณฝาผนังข้างโรงแรมเชียงใหม่วโรรส บูติค โฮเต็ล สี่แยกถนนท้ายวัง ตำบลช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะมีการส่งมอบกันในวันพรุ่งนี้ 12 สิงหาคม 2565 ส่วนในภาพต่อไปคือภาพที่สาม จะวาดที่จังหวัดอ่างทอง ท่านสามารถติดตามโครงการ “สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล” ได้ทุกช่องทางข่าว ของ สำนักข่าวท็อปนิวส์ จะรายงานให้ทราบเป็นระยะ.
ศูนย์ข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคเหนือ
