ผู้สื่อข่าวได้ยินคำร่ำลือจากชาวบ้านว่ามีพระเจ้าอาวาสวัดสะพานเลือก ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ปรับปรุงเมรุหลังเก่าให้เป็นกุฎิสำหรับจำวัด ส่วนบริเวณศาลาหน้าเมรุถูกรื้อออกสร้างเป็นที่สำหรับนั่งสมาธิโดยมีต้นไทรปกคลุมอย่างร่มเย็น ผู้สื่อข่าวไม่รอช้ารีบเดินทางไปยังวัดสะพานเลือกทันที จึงได้พบกับท่านพระอธิการสุทับ สุเมโธ หรือครูบาน้อย ปัจจุบันอายุ 53 ปี บวชเป็นพระมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ปัจจุบันได้ 14 พรรษาแล้ว อดีตเคยเป็นจิตรกรทำงานในกรุงเทพฯมาหลายที่ เมื่อเริ่มบวชตนเองจึงอยากจะปลีกวิเวกหาความสงบ เดินสายออกธุดงค์ตามป่าเขา นอนในถ้ำมาหลายปี จนได้พบกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งพาธุดงค์ไปยังประเทศพม่า จากนั้นกลับเข้ามาประเทศไทยและเข้ามาจำพรรษาอยู่ภายในวัดสะพานเลือกแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2556
แต่ตนเองก็ออกเดินธุดงค์อย่างต่อเนื่อง กลับเข้ามาอยู่ภายในวัดแค่เพียงช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ตนเองเห็นว่าเมรุหลังนี้ ผีลักษณะเป็นเมนส์แบบเตาเผาคู่ ไม่ได้ใช้แล้วอยู่ในสภาพเก่า อีกอย่างไม่ค่อยมีใครมาวุ่นวายแม้แต่พระที่อยู่ในวัด ก็ไม่ค่อยมีใครเดินมายังบริเวณที่แห่งนี้เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ใช้เผาศพจัดงานศพและเป็นบริเวณป่าช้าเก่า โดยนิสัยของครูบาน้อยเป็นผู้ที่ชอบความเงียบสงบอยู่แล้วจึงได้ปรึกษาชาวบ้าน ว่าอยากจะปรับปรุงเมรุคู่หลังนี้ให้เป็นกุฎิที่พักอาศัยส่วนตัวเนื่องจากถูกปล่อยร้างไว้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันปรับปรุง ต่อเติมชายคาด้านข้างออกไปส่วนห้องเก็บของด้านข้างเมรุทั้งสองฝั่ง ติดตั้งประตูไม้และนำเตียงไปวางไว้เพื่อใช้นอน ตามความคิดของครูบาน้อย ส่วนด้านหน้าของประตูเมรุ ที่เป็นประตูเหล็ก ทั้ง 2 บาน ได้นำเตียงไม้ไปวางไว้เพื่อ
สำหรับพักและนั่งสมาธิในช่วงกลางวัน บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารเมรุ ปกติจะเป็นศาลาที่ใช้ตั้งสวดศพ มีลักษณะเป็นฐานสี่เหลี่ยมสำหรับตั้งโรงศพ ปัจจุบันได้รื้อออกไปแล้ว และสร้างเป็นต้นไม้จำลองด้านในมีเพียงที่นั่งแคบๆ สำหรับนั่งปฏิบัติธรรม โดยมีต้นไทรงอกขึ้นมาปรกคลุมดูแล้วร่มเย็นเงียบสงบมาก ผู้สื่อข่าวยังถามท่านครูบาน้อยอีกว่าตั้งแต่มานอนที่นี่เคยเจอสิ่งเล่นรับหรือวิญญาณมารบกวนหรือไม่ ท่านตอบว่าก็มีบ้างแต่ท่านไม่กลัว เพราะท่านเคยออกปฏิบัติธรรมเดินธุดงค์ตามป่าเขามาแล้วถือว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.จันทบุรี
