No data was found

“ห้ามชุมนุม” มั่วสุม ฝ่าฝืนมีโทษ คุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท

กดติดตาม TOP NEWS

"ห้ามชุมนุม" ทำกิจกรรม มั่วสุม ก่อให้เกิดการระบาดของ โควิด-19 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแล้ว ฝ่าฝืนโทษคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ห้ามชุมนุม” ทำกิจกรรม มั่วสุม ก่อให้เกิดการระบาดของ โควิด-19 TOP News รายงาน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ มีผลใช้บังคับแล้ว ฝ่าฝืนโทษคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ห้ามชุมนุม, ราชกิจจานุเบกษา, มั่วสุม, ทำกิจกรรม, โควิด-19

 

 

 

 

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง “ห้ามชุมนุม” การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 15 ลงนามโดย พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ประกาศ ณ วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยมีเนื้อหา ดังนี้

 

 

โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งในทวีปเอเชียมีแนวโน้มพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในลักษณะที่เป็นการระบาดระลอกเล็กๆ (Small Wave) สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยแม้ว่าประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงปรากฏการระบาดลักษณะเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่เสี่ยง ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มจำนวนขึ้น รัฐบาลจึงได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 47) ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 12/2565 ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ฝ้าระวัง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถนการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

 

 

 

 

เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปิดประเทศและการฟื้นฟูเศรษฐกิจดำเนินไปควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างเข้มแข็งและสมดุล ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระยะ Post – Pandemic รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุข จึงปรับมาตรการเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคที่จำเป็นสำหรับการดำเนินกิจกรรมบางประการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ย่อยใหม่ต่างๆ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรคโควิด-19 เข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านอันจะทำให้การบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

 

อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ข้อ 3 ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 37 ข้อ 2 ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และข้อ 4 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 47 ข้อ 3 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และข้อกำหนด คำสั่ง ประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงให้ปฏิบัติ ดังนี้

 

 

  • 1. ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563 ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

 

 

  • 2. ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาส
    ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร
  • 3. “ห้ามชุมนุม” ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่ฝ้าระวังสูง เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น โดยให้ดำเนินการตามข้อกำหนด ฉบับที่ 47 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และข้อกำหนด ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

 

 

  • 4. การชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ให้ดำเนินการตามข้อกำหนด ฉบับที่ 47 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และข้อกำหนด ฉบับที่ 46 ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565
  • 5. ให้นำหลักเกณฑ์การจัดและการแจ้งการชุมนุม รวมทั้งหน้าที่ของผู้จัดและผู้ชุมนุมตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะมาใช้โดยอนุโลม

 

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ในกรณีที่มีการออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับใหม่ ให้ประกาศฉบับนี้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดฉบับใหม่ดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป

 

 

 

 

ห้ามชุมนุม, ราชกิจจานุเบกษา, มั่วสุม, ทำกิจกรรม, โควิด-19

 

 

 

 

ห้ามชุมนุม, ราชกิจจานุเบกษา, มั่วสุม, ทำกิจกรรม, โควิด-19

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"งูประหลาด" 2 หัว ปากกัด-หางต่อย? ตำนานเล่าขานจนแทบสูญพันธุ์
ระทึก เรือสปีดโบ๊ทรับส่งพนักงานล่มระหว่างทาง โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต
"หนุ่มคลั่ง" ซิ่งเก๋งชนรถตร.ทางหลวง พังยับ สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน
"รถไฟฟ้าสีเหลือง" ขออภัยระบบรางนำไฟฟ้าขัดข้อง คมนาคมสั่งหยุดชั่วคราวเร่งสอบแก้ปัญหา
จีน ตากล้องจับภาพ 'ราชาแห่งภูเขาหิมะ' ระยะประชิด
"พระเลขาฯ" วัดเที่ยงพิมลมุข โต้กลับ “ทนายตั้ม” ยัน "บิ๊กตร." ไม่เคยโอนเงินให้วัด
"อัษฎางค์" ซัด UN สองมาตรฐาน หยุดสร้างความเหลื่อมล้ำ หลังจี้ยุติดำเนินคดี112 "อานนท์ นำภา"
ออสเตรเลีย ประกาศเคอร์ฟิวเมืองท่องเที่ยวหลังวัยรุ่นตีกัน
กลุ่มศปปส.นัดรวมพล 29 มี.ค.นี้ ยื่นหนังสือถึง UN ประจำประเทศไทย คัดค้านยุติช่วยเหลือ "อานนท์ นำภา" นักโทษคดี 112
"จักรภพ" มอบตัวกองปราบปฏิเสธทุกข้อหา เปิดใจได้คุยทักษิณ เลือกเลี่ยงทำตัวมีปัญหา พร้อมช่วยงานรัฐบาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น