ด่วน “ธนารักษ์” เลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC ตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

"กรมธนารักษ์" แจ้งเลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC กับ“วงษ์สยามก่อสร้าง” ในวันที่ 3 ส.ค.65 แล้ว หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับการดำเนินการในการเซ็นสัญญาออกไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งชี้ขาดคดีหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ด้านอธิบดีกรมธนารักษ์ เผย”เมื่อศาลสั่งแล้ว ก็มีเหตุผลโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะต้องหยุดการลงนามสัญญากับเอกชน”

วันที่ 2 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมธนารักษ์ ได้แจ้งต่อสื่อมวลชน ว่า เนื่องด้วยวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับการดำเนินการ ในการเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ในวันที่ 3 สิงหาคม 2565 นี้ ออกไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งชี้ขาดคดีหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เป็นผลให้กรมธนารักษ์จำเป็นต้องเลื่อนการลงนามในสัญญาดังกล่าวออกไปก่อน

จากเดิม กรมธนารักษ์แจ้งว่า จะมีการจัดพิธีลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินการกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก กับทางบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคาร 72 ปี กรมธนารักษ์

ด้านนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยกับ TOPNEWS ว่า เมื่อศาลสั่งแล้วก็มีเหตุผลโดยชอบด้วยกฎหมายที่กรมธนารักษ์จะต้องหยุดการลงนามสัญญา

และส่งผลให้ในช่วงเวลานี้ กรมธนารักษ์จะไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับโครงการนี้ได้ จนกว่าศาลมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นออกมา จากคำร้องที่บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ได้ยื่นไว้ก่อนหน้านี้ และศาลปกครองเคยมีหนังสือแจ้งคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ว่า กรณีนี้หากการคัดเลือกเอกชนเพื่อเข้าทำสัญญาในโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป จนมีการลงนามในสัญญา ย่อมทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในการประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอครั้งแรกได้รับความเสียหาย

เนื่องจากมาตรา 119 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 บัญญัติให้การฟ้องคดีไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานของรัฐได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว จึงย่อมทำให้การฟ้องคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟ้องคดีในการแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากมติหรือคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกครั้งแรก

ประกอบกับโครงการพิพาทมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เอกชนบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำของชุมชนและกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอและทันต่อการณ์ โดยบริหารจัดการเพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงที่มีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคตะวันออก

 

ดังนี้ หากการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงอาจเป็นอุปสรรคแก่การบริการสาธารณะด้านการให้บริการสาธารณูปโภค

ศาลจึงมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนตามข้อ 49/2 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น