ผู้ว่าฯ ดำเนินคดีร้านคาราโอเกะร้านนวดของ ผญบ. บ่อไร่ หลังเเอบขายบริการทางเพศ พร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์

ผู้ว่าฯตราด ดำเนินคดีร้านคาราโอเกะร้านนวดของ ผญบ. บ่อไร่ หลังเเอบขายบริการทางเพศนักเรียนวัย 16 ปี 2 คน พร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์หลังพบหลักฐานการโอนเงินทั้งให้เจ้าของร้านและผู้ใช้บริการ แฉจ่ายให้เจ้าหน้าที่เป็นรายเดือน

หลังการที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอเมืองตราด และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด หลังมูลนิธิอิมมานูเอล และ มูลนิธิเดสทินี่ เรสคิว ประเทศไทย ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองตราดซึ่งมีการลักลอบนำเด็กหญิงชาวไทยอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ได้รายงานเรื่องราวทั้งหมดให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดตราดไปแล้ว หลังมีการดำเนินการจนแล้วเสร็จในวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้ให้นโยบายให้ดำเนินการกวดขันสถานบริการทุกแห่ง ซึ่งทางอำเภอเมืองตราดได้ส่งปลัดฝ่ายปกครอง และกำลังอส.เมืองตราด
ออกทำการกวดขันด้วยการตรวจทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก เพราะเรื่องนี้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เดินทางมาตรวจสอบถึง 2 เดือนหลังได้รับเรื่องร้องเรียน จาก 2 มูลนิธิผ่านกรมการปกครอง และเมื่อเข้ามาตรวจสอบได้ทำการล่อซื้อซึ่งก็สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้

นายอำเภอเมือง กล่าวว่า จากการสอบสวนเชิงลึกของพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิง และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.ตราด พบว่า เจ้าของร้านคาราโอเกะเป็นผู้ใหญ่บ้านในอำเภอบ่อไร่ และภรรยาเปิดร้านนวดแผนโบราณที่อยู่ใกล้กัน โดยมีเด็กหญิง 2 คนมาเป็นพนักงานในร้าน และมีการชักชวนให้ขายบริการ ซึ่งมีรายได้ครั้งละ 1,500 บาท และจะให้เจ้าของร้านคือ ผู้ใหญ่บ้าน 300 บาท โดยผู้ใช้บริการจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีของนักเรียนก่อน ซึ่งก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการจับกุมนั้น เด็กทั้งสองคนไม่ได้ทำงานในร้านแล้ว เนื่องจากทะเลาะกับเจ้าของร้านจึงไม่ทำงานด้วย จึงได้ติดตามตัวมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน

จากการสอบปากคำเด็กทั้งสองคนได้ระบุถึงพฤติกรรมของเจ้าของร้านที่ให้ลูกสาววัย 15 ปี ที่เป็นเพื่อนของนักเรียนชักชวนให้ขายบริการ ซึ่งเมื่อยินยอมได้ให้เด็กรับเงินจากผู้มาซื้อบริการในราคาครั้งละ 1,500 บาท และหักให้เจ้าของร้าน 300 บาท โดยนักเรียนจะได้รับการโอนเงินจากผู้ซื้อและโอนมาให้เจ้าของร้าน ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ทั้งหมดว่าใครซื้อบริการบ้าง ซึ่งทางอำเภอเมืองตราดได้รับนโยบายจากทางผู้ว่าราชการจ.ตราดมาแล้วว่า ให้ดำเนินการตามกฏหมายเต็มที”

นายภิรมย์ กล่าวว่า เบี้องต้นได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อโดยอำเภอเมืองตราดได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาเบื้องต้น ดังนี้ 1“ค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก” ,2.เป็นธุระจัดหาหญิงมาเพื่อค้าประเวณี และ
3. ชักชวน ล่อลวง และยุยงส่งเสริม ให้เด็กมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ ทั้งนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดี ขณะเดียวกันพบว่า มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วนเพื่อไม่ให้ทำการจับกุม แต่ไม่มีของอำเภอเมืองตราด

ด้านพลตำรวจตรีปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด กล่าวว่า เรื่องนี้ได้สั่งการให้ทางผกก.สภ.เมืองตราด ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะเจ้าของร้าน และผู้ซื้อบริการไม่ว่าจะเป็นใครซึ่งมีหลักฐานจากผู้ขายบริการอยู่แล้ว ส่วนการจ่ายส่วยนั้น ไม่มีหรอกใครจะมาจ่ายให้ ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจ.ตราดจะดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดตามนโยบายของรัฐบาลที่กำชับมาในเรื่องนี้

จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ตราด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ธรรมชาติวาดเส้นแบ่ง 'แม่น้ำสองสี' ไหลบรรจบในกานซู่
กลุ่มคนจีนยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนบ้านเจ็บ 2 ดอดมอบตัวอ้างปากแจ๋ว เหตุเพราะไรเดอร์ส่งปูราคา 4 พันผิดบ้าน
ชาวบ้าน แตกตื่น พบ “ทารก” ใส่ถุงดำทิ้งริมทาง รีบแจ้ง ตำรวจ กู้ภัยฯ ตรวจสอบที่แท้เป็นตุ๊กตายาง
สงขลา แถลงจัด “Songkhla International Marathon 2025” เปิดศึกวิ่งนานาชาติ
ชาวอำเภอบัวเชด เร่งทำบังเกอร์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน
รมช.คลัง ลงพื้นที่ สมุทรสงคราม เปิดตัวโครงการ "ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ" หนุนการออมด้วยสลากดิจิทัลใบละ 50 บาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​