‘นายกฯ ตู่’ ปัดสั่งทำระบบ “เพกาซัส” ยืนยันให้สิทธิมนุษยชนเกิน 100%

'นายกฯ ตู่' ปัดสั่งทำระบบเพกาซัส บอกไม่รู้จักไหนๆหาว่าไม่ฉลาดอยู่แล้ว ยืนยันให้สิทธิมนุษยชนเกิน 100%

เมื่อเวลา 12.43 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน เป็นวันที่ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนนั่งฟังการอภิปรายมาตั้งแต่เช้ามีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องในกรอบอำนาจนายกฯและรว.มกลาโหม เรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆได้มีการชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว สรุปว่าถ้าให้เท่าไหร่ตนก็ทำเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ผ่านถ้าผ่านก็ทำได้จะได้เป็นหลักการเสียที สิ่งที่ชี้แจงมามีเหตุมีผลว่าอันไหนจำเป็นไม่จำเป็น เร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วน ถ้าบอกว่าไม่เร่งด่วนทั้งหมดก็ไม่เป็นไร ตนไม่ว่าอะไรอยู่แล้วเป็นอำนาจของสภม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการชุมนุมมีการพูดจาหลายอย่างถึงการใช้อำนาจนายกฯ และรมว.กลาโหม เพื่อป้องกันผู้เห็นต่าง ขอถามว่าที่ผิดกฎหมายนั้นผิดกฎหมายปกติหรือไม่ หรือเป็นกฎหมายให ม่ดังนั้นสิ่งต่างๆ ตนให้นโยบายมาตลอดต่อเนื่องว่าให้ความระมัดระวังที่สุดในการบังคับใช้กฎหมาย อะไรแจ้งเตือนได้ก็ไปแจ้งเตือนโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนต่างๆ ซึ่งอาจได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจผิดเพี้ยนไปก็ได้ไปพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้อยู่ท่ามกลางอันตรายและเหตุการณ์ที่จะถูกดำเนินคดี ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของศาลกระบวนการยุติธรรม เยาวชนก็ต้องอยู่ในกระบวนการของศาลเยาวชน ยืนยันตนไม่เคยใช้อำนาจก้าวล่วงอำนาจศาลทั้งสิ้น ดังนั้นกรุณาระวังด้วยในการอำเมิดอำนาจศาล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องสิทธิมนุษยชนพยายามให้อย่างเต็มที่แล้วและคิดว่าให้เกิน 100% ไปแล้วตอนนี้กฎหมายหลายตัวก็มีอยู่ ตนพยายามผ่อนหนักผ่อนเบาผ่อนสั้นผ่อนยาวตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมการเคลื่อนไหวพวกนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ ช่วงที่มีรัฐบาลในช่วงนี้และมีพรรคบางพรรคเข้ามาอยู่ตรงนี้ คิดว่าอันตรายที่สุด ตนคิดอย่างนั้นและคิดว่าคนไทยทั้งประเทศก็คงมองออก ไม่ว่าจะเป็นการไปพูดจาในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยต่างๆเหล่านี้ เพื่อทำลายล้างระบบของเราทั้งหมด เพื่อจะเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ตนคิดว่าคนไทยคงไม่ยอม ดังนั้นจะมาโทษเจ้าหน้าที่ไม่ไ ด้เพราะท่านเป็นคนเริ่มทำเอง ซึ่งกฎหมายทุกฉบับตนก็ไม่ได้กำหนดขึ้นมาใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องป้องกันประเทศดูแลชายแดนเรื่องดูแลน่านฟ้าอะไรต่างๆนั้น ได้พูดไปหลายครั้งแล้วแต่ยังพยายามรื้อฟื้นขึ้นมาอีกให้ได้ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่ให้ถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานคนเดียวแต่ทำด้วยระบบและความร่วมมือประสานสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของเรา แต่เรื่องกิจการภายในหรือเรื่องการต่อสู้ก็เป็นเรื่องของที่คงไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับสถานการณ์แบบนี้ในประเทศของเราเช่นกัน จึงขอให้ระมัดระวังไว้ด้วยในการพูดจาอะไรต่างๆ ซึ่งภาพที่ปรากฏออกมานั้นมีทั้งจริงบ้างและไม่จริงบ้าง และยืนยันว่าเราได้มีการเตือนไปหลายครั้งเช่นในกรณีที่มีอาวุธตกมาฝั่งเราหรืออะไรต่างๆ ถ้ามีการฝ่าฝืนอยู่ก็มีการใช้อาวุธจริงออกไป ซึ่งทุกอย่างตามกระบวนการและต้องระมัดระวังอย่างมากที่สุดเพราะต่างประเทศก็ไม่เคยมายุ่งกิจการภายในของเรา เราก็ไม่เคยยุ่งกับใคร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เมื่อวานนี้ก็มีการเอาภาพมาเปรียบเทียบว่าตนไปประเทศต่างๆไม่ได้รับการต้อนรับ โดยคนที่เสนอก็นั่งอยู่ในนี้ ซึ่งที่เห็นเป็นภาพที่เอามาประกอบกันทั้งสิ้น ภาพที่ตนไม่ได้รับการพูดจาทักทายโดยเอาภาพที่ตนยืนระหว่างที่คนอื่นพูดกัน ตนยืนเฉยๆ ไม่มีใครคุยด้วย ซึ่งไม่ใช่ความจริง เรื่องนี้ไม่ต้องมาเถียงให้ไปขอข้อมูลต่างประเทศได้ ตนไม่อยากเอาภาพมาโฆษณาตัวเอง

“ถ้าท่านไม่เคยเป็น ไม่เคยอยู่ ก็อย่ามาว่าผม เอาให้ท่านเป็นซะก่อนและท่านก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ผมไม่ได้ว่าผมทำดีที่สุดอยู่แล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของหนี้กยศ. ขอถามกลับว่าทำไมต้องสอนให้คนไม่รับผิดชอบ ที่ตนทำคือทำให้คนต้องรับผิดชอบเมื่อกู้เงินไปต้องรับผิดชอบ แต่ทำอย่างไรไม่ให้เป็นภาระในเรื่องการส่งดอกหรืออะไรก็ตาม แต่กลับบอกว่าเอาเงินทั้งก้อนไปแจกให้หมดเลย ขอถามว่าเอาเงินจากที่ไหน มีหลายคนตนไม่อยากเอ่ยชื่อยังไม่จ่ายกยศ. แต่ตอนนี้มีเงินเดือนตั้งเป็นแสน ตนก็ไม่เข้าใจ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่มีรายได้น้อยและไม่ได้เข้าสู่กระบวนการศึกษา วันนี้สิ่งที่ต้องร่วมมือกันและต้องอยู่รอดไปด้วยกัน ตนทำให้อยู่รอดและมันก็จะดีขึ้นเองในกรอบที่สามารถกระทำได้และเป็นไปตามกติกา คนเราต้องเคารพกติกา ซึ่งสิทธิมนุษยชนของตนก็มีเหมือนกับทุกคน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด และตนอาจต้องรับผิดชอบมากกว่า แต่จะไปอ้างสิทธิมากกว่าคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว แต่อย่าละเมิดซึ่งกันและกัน ถ้าอะไรก็ตามทำให้เกิดความเสียหายกับตน ก็จำเป็นต้องรักษาสิทธิส่วนบุคคลเช่นกัน ไม่ได้ขู่แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งท่านอาจจะไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะใช้คำพูดที่รุนแรงมากพอสมควรในสภานี้ ตนพยายามอดทนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

“เรื่องการพาดพิงบุคคลภายนอก ผมก็เห็นส.ส.หลายคนพยายามทักท้วงหลายครั้งแล้ว ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น มันทำให้เกิดความเสียหาย อาจจริงบ้างไม่จริงบ้างจริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องที่ท่านต้องรับผิดชอบกันต่อไป ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ผมไม่ใช่คนที่สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ไปจับคนนี้คนนั้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์ไม่มีเรื่องไม่มีหลักฐานก็ทำไม่ได้ เขาไม่อยากทำด้วยซ้ำไป การที่ไปฟ้องศาลแต่ละทีเขียนสำนวนตั้งเท่าไหร่ ทำอย่างไรให้ถูกต้องให้กระบวนการยุติธรรมรับได้ ผมไปบิดเบี้ยวไม่ได้ เพราะมันปรากฏอยู่ก็ขอร้องไม่ว่าอยู่หรือไม่อยู่เบื้องหลังกันก็ตาม ผมก็อยากจะเตือนไว้เท่านั้นเองไม่อยากจะจ้องใครทั้งสิ้น ท่านทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ท่านทำ เหมือนผมทำอะไรผมก็รับผิดชอบ ผมพูดกับท่านตอบกลับและฟังท่าน โดยที่ไม่ได้ไปอะไรกับท่านเลย แล้วไม่เคยหยาบคายกับท่านสักคำ และไม่เคยมีกริยาที่ก้าวล่วงกันเลย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสปายแวร์หรือระบบเพกาซัสนั้น ตนก็ไม่รู้จัก ท่านก็หาก็ว่าตนไม่ฉลาดอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่มีค่าและไม่มีความจำเป็นที่จะเสียเงินงบประมาณเพื่อตามแบบนี้ เปิดดูในโซเชียลก็เห็นอยู่แล้วว่าใครเป็นคนและใช้งบประมาณกันเท่าไร มีคณะทำงานอยู่ที่ไหนบ้าง ตนยังไม่ได้ทำอะไรเลยและเห็นว่าไม่ใช่เรื่อง ถ้าเราเรียนรู้กับโซเชียลกันแบบนี้ ประเทศชาติก็เป็นแบบนี้ จริงบ้างเท็จบ้าง และตนไม่ให้ค่าคนเหล่านี้อยู่แล้ว คนที่อยู่เบื้องหลัง แต่คนที่ไม่รู้เรื่องตนเห็นใจคนที่แพร่ต่ออาจไม่เข้าใจ แต่คนต้นเรื่องเป็นเรื่องของกฎหมายว่ากันไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างตนไม่แก้ตัวอะไรทั้งสิ้นและมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ต้องพูดให้เกิดประโยชน์ในสภาแห่งนี้และในประเทศชาติและในเวลานี้มากกว่าเรื่องที่ตีกันไปตีกันมา หลายเรื่องพูดไปแล้วถามแล้วถามอีก กมธ. เป็นเรื่องเดิมๆ ขอให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กันดีกว่าโต้เถียงโต้แย้งกันแบบ นี้ในขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองก็เป็นแบบนี้อยู่

“วันนี้ไม่ใช่เวลาที่เรามาทะเลาะกัน ผมไม่ต้องการทะเลาะกับใคร แม้จะไล่ผมยังไงก็ตามก็ขึ้นอยู่กับมติ ขึ้นอยู่กับประชาชนขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างและรัฐธรรมนูญที่ท่านว่า ผมไม่ใช่คนเขียนรัฐธรรมนูญ ผมสั่งใครไม่ได้อยู่แล้วก็เป็นเรื่องของคณะทำงานคณะร่างเขาทำมา ดังนั้นการที่เอาคนนั้นมาอ้างคนนี้มาพูด เอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน ผมรับไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลที่ต้องตรวจสอบ หลายครั้งที่ผมเตือนไปแล้วว่าอย่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผม ตัวผม ครอบครัวผม และผมไม่อยากจะกล่าวย้อนไปคนที่ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ และถ้าพูดถึงเงินไม่พอเงินไม่มีเป็นหนี้เป็นสินทำไมไม่เติมเงินตรงนี้ เก็บเงินจากคนที่ไปใช้ประโยชน์สิครับ ที่ใช้หนี้ให้อยู่นี่ ที่เป็นหนี้อยู่นี่กี่แสน และที่ยังไม่ได้นับอีกหลายคดีนะ เอามารวมสิครับผมจะให้กยศ.เต็มเม็ดไปเลย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สระแก้ว ทหารจับแก๊งบัญชีม้าคนไทย 3 ราย ขณะลักลอบ ไปและกลับ จากกัมพูชา
ปฏิบัติการเชิงรุก! เจ้าหน้าที่เขาสอยดาวทำงานไม่หยุด เพื่อสมดุลธรรมชาติผลักดันช้างป่ากับคืนถิ่น
เปิดใจเด็กหญิงในภาพ ที่ถวายมาลัยกร “พระพันปีหลวง” เมื่อ 40 กว่าปีที่ผ่านมา
หนุ่มขี่ จยย.ชนท้ายรถยนต์กระบะที่จอดติดไฟแดง บาดเจ็บ
"เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด" ขีดเส้น 30 ขอ "หลวงพ่ออลงกต" เร่งชี้แจงปม "ที่ดิน" รีบจัดการโอนกรรมสิทธิ์คืนให้วัด
ปราบสายแว้นท่อดัง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​