No data was found

”อาคม” ยันรัฐไม่นิ่งนอนใจ น้ำมันแพง-ค่าครองชีพสูง เล็งออกมาตรการดูแล

กดติดตาม TOP NEWS

รมว.คลัง ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจน้ำมันแพง เล็งออกมาตรการดูแลเป็นช่วงๆ พร้อมเตรียมหารือธปท. ดูแลดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์รัฐ-เอกชน

วันนี้(11 ก.ค.65)นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง”อสังหาฯ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ?” ในงานสัมมนา Property Inside 2022 ทางรอดอสังหาฯ หลังโควิด – ไฟสงคราม ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า ภาคอสังหาฯ ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะมีห่วงโซ่อุปทานที่ยาวและลึกมาก วัดได้จากยอดการโอน การจดจำนอง หรือยอดการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งหากมียอดเหล่านี้เกิดขึ้น จะทำให้ในระยะอีก 6 เดือนข้างหน้ามีการลงทุน หรือ การก่อสร้างเกิดขึ้นจริง

โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง และมาตรการ การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV ) ที่จะสิ้นสุดมาตรการในช่วงปลายปี 65 นี้ กระทรวงการคลัง ได้เตรียมหารือ ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ กระทรวงมหาดไทยพิจารณาขยายอายุมาตรการ เพื่อช่วยหนุนให้เศรษฐกิจในภาคอสังหาฯ สามารถโตได้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 66

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ จากความวิตกกังวลของประชาชน ในเรื่องราคาน้ำมันแพง และภาระค่าครองชีพที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นายอาคม ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งงานทุกครั้งที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีการประชุมกลุ่มย่อยต่างๆ ซึ่งล่าสุด สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นเพื่อออกมาตรการดูแลระดับราคาสินค้า และการเพิ่มรายได้ต่างๆ ซึ่งจะออกมาเป็นระยะ เพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายอาคม กล่าวว่า เครื่องมือที่สำคัญในการดูแลสถานการณ์ราคาน้ำมันของภาครัฐ คือ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภาษี และการเจรจากับโรงกลั่นในเรื่องค่าการกลั่น และค่าการตลาด

ขณะที่การกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น นายอาคม กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการหารือกันอยู่ แต่เนื่องจากสถานะกระแสเงินสดของกองทุนฯ ขณะนี้ ก็อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการที่จะปล่อยกู้บ้าง แต่ในส่วนของกระทรวงการคลังไม่ได้เบรกในเรื่องของการที่กองทุนน้ำมันจะกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ในส่วนของราคาน้ำมัน จะเห็นได้ว่า ราคาน้ำมันเบนซินลดลงมา 3 บาท/ลิตร และลดลงอีก 1.50 บาท/ลิตร จากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงเกินคาด เนื่องจากเกิดกลัวว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย สังเกตได้จากการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมา 0.75% ซึ่งถือเป็นเครื่องชี้ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตได้ชัดเจน ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นแน่นอน ส่งผลให้ราคาน้ำมันจึงปรับตัวลง แต่ทั้งนี้ ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะยังมีความผันผวนอยู่มาก

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้านำเข้า โดยค่าเงินบาทขณะนี้อาจจะอ่อน ซึ่งกระทบต่อราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องมองถึงเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วย โดยขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายไปต่างประเทศเยอะ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีการติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ รวมทั้งต้องรอดูทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้อีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกาหลีใต้เตือนระวังตัว เดินทางในไทย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น