เจ้าของโรงงานลาดกระบัง โดนสอบเครียด 9 ชม.

รองปลัด กทม. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานเสี่ยง 12 แห่ง ส่วนเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ ลาดกระบัง วานนี้ สธ. ยืนยันแล้ว สารเคมีไม่อันตราย ขณะที่ เจ้าของโรงงาน ถูกสอบหนัก 9 ชม.

วันที่7 ก.ค. 2564 นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันสาธารณภัย สำนักงานเขตลาดกระบัง เจ้าของโรงงานที่เกิดเหตุ และนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันประชุมมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเพลิงไหม้โรงงาน

 

โดย นายขจิต กล่าวว่า การประชุมดังกล่าว เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับหามาตรการแนวทาง เพื่อสร้างความมั่นใจ เรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ในกรณีหากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นอีก จะต้องเร่งดับเพลิงให้เร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะกระทบเป็นวงกว้าง เนื่องจากได้บทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (6 ก.ค.)

 

ส่วนการเข้าพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ปฏิบัติงานได้อย่างล่าช้ามาก จึงคุยกับผู้แทนนิคมอุตสาหกรรมว่า หากเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นอีก หน่วยดับเพลิงที่มีอยู่แล้วในนิคมจะต้องเข้าถึงจุดเกิดเหตุภายใน 10 นาที พร้อมทั้งจะมีการซักซ้อมดับเพลิง โดยจะให้ทีมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เข้ามาเป็นพี่เลี้ยง

 

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า จะลงพื้นที่ตรวจโรงงานที่มีความเสี่ยง จำนวน 12 แห่ง เช่น โรงงานที่มีเชื้อเพลิงติดไฟง่าย หรือ มีเชื้อเพลิงที่เป็นสารพิษ เพราะหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ จะได้รู้ว่าเชื้อเพลิงบริเวณใด จะได้นำน้ำเข้าไปฉีดสกัดได้ถูกจุด พร้อมแนะนำวิธีเก็บสารเคมีที่ถูกต้องให้แต่ละโรงงาน ไปปฏิบัติในทิศทางเดียวกันอย่างเข้มงวดอีกด้วย

 

นอกจากนี้ จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีของแต่ละโรงงานใหม่ทั้งหมด และวิเคราะห์ว่า สารเคมีแต่ละตัวจะต้องใช้โฟม หรือ สารชนิดใดในการดับ หากเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้ง ฝึกวิธีการใช้งานเบื้องต้นให้กับคนในโรงงาน เพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่หน่วยดับเพลิงจะเข้ามาในพื้นที่

 

ส่วนกรณีที่มีสารรั่วไหลออกมาจากโรงงาน จนทำให้น้ำเป็นสีชมพูนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ไม่เป็นอันตราย เพราะส่วนใหญ่เป็นแอลกอฮอล์ สำหรับ ทำสบู่ แชมพู ครีมนวด  สามารถระเหยได้ง่าย อีกทั้ง สามารถใช้กับคนได้ ปกติสารเหล่านี้นำมาเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายของคนอยู่แล้ว

 

และกรณีเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า ต้นเพลิงมาจากสาเหตุใด

 

จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ หรือ เจ้าของโรงงานนั้น ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ เนื่องจาก ยังมีภาวะเครียดและกดดัน เพราะถูกสอบปากคำ นานกว่า 9 ชั่วโมง แต่เท่าที่สังเกตอาการ ทราบว่า มีความเครียด และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เนื่องจากต้องสูญเสียโรงงานและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหมด

 

ส่วนประเด็นที่หลาย ๆ คนสงสัยว่า โรงงานต้องการเอาเงินประกันหรือไม่นั้น คาดว่า ไม่น่าเกี่ยวกับเงินประกัน ซึ่งอาจจะต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น