No data was found

“ชัชชาติ” พร้อมจ่ายหนี้ “รถไฟฟ้าบีทีเอส” นัดเอกชนคุย สรุปปัญหาในก.ค.นี้

กดติดตาม TOP NEWS

“ชัชชาติ”พร้อมจ่ายหนี้รถไฟฟ้าบีทีเอส นัดเอกชนคุยสรุปปัญหาในก.ค.นี้

เมื่อวันที่ (2 ก.ค.65)ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) , รองศาสตราจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมปรึกษาหารือแก้ไขหาหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับสัญญา และหนี้ ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมที่ผ่านมาของ กรุงเทพธนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการเดินรถเป็นหลักในส่วนต่อขยาย ที่ 1 และที่ 2 ได้มีการตรวจทานกระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย และตรวจสอบประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าเดินรถตามสัญญา ที่มีเรื่องการร้องเรียน กล่าวหากันอยู่ใน ปปช. ซึ่งอำนาจการตรวจสอบจึงอยู่ที่ป.ป.ช. ในการดูความถูกต้องครบถ้วน

เมื่อกรรมการบริหารชุดใหม่ ของเคที เข้ามาทำงาน จะได้ทำหนังสือแจ้งป.ป.ช. ให้ทราบว่า ถ้าป.ป.ช. ต้องการรายละเอียดด้านข้อมูล ความร่วมมืออะไรจากกรรมการชุดนี้ ก็พร้อมที่จะส่งข้อมูลให้และทำงานร่วมกัน และหากป.ป.ช. จะให้กรุงเทพธนาคม ได้ทราบว่า ขั้นตอนถึงไหนแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของกรุงเทพธนาคมเองด้วย

สำหรับประเด็นสัญญาเดินรถส่วนต่อขยายที่ 2 เมื่อได้นำมาเปรียบเทียบกับส่วนต่อขยายที่ 1 พบข้อแตกต่างที่มีนัยสำคัญก็คือ เรื่องพิจารณาอนุมัติโดยสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) ซึ่งไม่ได้มีการดำเนินงานในส่วนนี้ จึงได้มีการปรึกษาหารือกับผู้ว่าฯกทม. ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้องต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

แต่ส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของกรุงเทพธนาคมโดยตรง จะมีการเจรจาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินรถตามสัญญา ซึ่งได้มีการทบทวนตัวเลขแล้วจากสูตรคำนวณ พบว่าน่าจะมีการคลาดเคลื่อนบางอย่างบางประการ รวมไปถึงตัวแปรอื่นๆ เรื่องของสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป, จำนวนผู้โดยสาร, วิธีการชำระเงิน ต่างๆ เหล่านี้ คิดว่าจะต้องมีการเจรจาใหม่ ซึ่งโดยสัญญาระหว่างกรุงเทพธนาคมกับบริษัทเอกชน ก็เปิดช่องให้มีการเจรจากันได้อยู่แล้ว

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง กล่าวว่า สำหรับการเจรจากับภาคเอกชน เนื่องจากตัวเลขมีความซับซ้อน ต้องมีการตรวจสอบ มีความเห็นนักวิชาการประกอบด้วย โดยภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะรีบประสานไปยังเอกชนที่เป็นคู่สัญญา ขอให้มีการเริ่มต้นพูดคุยกัน

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียว มี 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรุงเทพธนาคม, กทม., เอกชน และสภา กทม. เป็น 4 ส่วนที่มีองค์ประกอบสำคัญ จากสภาพหนี้ที่เกิดขึ้นเกือบแสนล้านบาท ซึ่งทางกทม. ก็ยินดีที่จะจ่ายหากมันถูกต้องตามกฎหมายและทุกขั้นตอน

อย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่กทมต้องดูก็คือ ที่มาที่ไปของนี่ถูกต้องหรือเปล่า มีการอนุมัติจากสภาฯ ครบถ้วนหรือไม่ และได้ผ่านตามระเบียบขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะ 3 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นหนี้ที่โอนทรัพย์สินมา ซึ่งเมื่อสภาฯ เปิด จะมีการสอบถามว่า ได้ทำครบถ้วนหรือไม่ ส่วนที่เป็นหนี้จ้างกรุงเทพธนาคม ทำระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) และเรื่องการจ้างเดินรถ ตรงนี้สำคัญ
นายชัชชาติ ย้ำกว่า ไม่ได้ปฏิเสธหนี้ในส่วนนี้ พร้อมจะจ่าย แต่ต้องทำตามขั้นตอนครบถ้วน ถ้าตรงไหนไม่ครบถ้วนก็ทำให้ครบถ้วน

ส่วนเรื่องรายละเอียด ระหว่าง กรุงเทพธนาคม กับเอกชน จะต้องปล่อยให้ กรุงเทพธนาคม ไปดำเนินการเจรจากันเอง แต่ทางกทม. จะสนับสนุนทางด้านข้อมูลตัวเลข ส่วนความสัมพันธ์ทางกฎหมายเป็นเรื่องของกรุงเทพธนาคมกับภาคเอกชน

ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดเผยสัญญา ระหว่างกทม. กับกรุงเทพธนาคม มีว่า ห้ามเปิดเผยต่อสาธารณชน ยกเว้นกฎหมายบังคับ แต่ตอนนี้ได้มีหลายหน่วยงานได้ขอดูสัญญาดังกล่าวให้ออกมาเปิดเผยสัญญาค่าจ้างเดินรถ ทั้งเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยาย เมื่อทาง กทม.เช็คสัญญาและข้อกฎหมายถูกต้อง ทางกทม.ก็จะนำมาเปิดเผยข้อมูล ซึ่งต้องขอเวลาในการดำเนินการ เชื่อว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

ขณะที่ ในส่วนของค่าโดยสาร รถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายที่2 ช่วงสถานีหมอชิต-คูคต และสถานีแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ อยู่ระหว่างสรุปขั้นตอน ต้องดูตัวเลขให้ชัดเจน เพราะยังมีข้อทักท้วงมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะสรุปตัวเลขได้ภายในเดือนส.ค. นี้ ว่าจะเก็บเท่าไหร่

ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยอมรับว่า ปัญหาเร่งด่วนขณะนี้ คือ เรื่องหนี้ เนื่องจากมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่การจ่ายหนี้ ต้องให้มั่นใจว่า ถูกต้องตามกระบวนการก่อน ต้องให้รอบคอบ เนื่องจากมีเงินของภาษีประชาชน และมีระเบียบปฏิบัติที่ต้องดำเนินการ โดยเมื่อสภาฯ กทม. เปิดวันที่ 6 ก.ค.นี้ ก็จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน หารือกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอธีระวัฒน์" แจ้งข่าวลาออก หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาฯ หลังวิจารณ์ปมวัคซีนโควิด หวั่นกระทบภาพลักษณ์องค์กร
"รทสช." ยังไม่นิ่ง! สะพัด "เสี่ยเฮ้ง" รีเทิร์นคั่วเก้าอี้ "รมช."
สลด "นศ.สาวปี 3" รอมอบตัว หลังใช้มีดไล่แทง "แฟนหนุ่ม" บาดเจ็บสาหัส
“ศุภมาส” จับมือเยอรมนีลงนามปฏิญญายกระดับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของ 2 ประเทศครอบคลุม 10 กิจกรรม
อบต.บางคา อ.ราชสาส์น ขานรับนโยบายกระทรวงมหาดไทย เปิดงาน"MOI Waste Bank Week - มหาดไทยปักธงประกาศความสำเร็จการจัดตั้งธนาคารขยะ
จัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" เข้มขลัง ยิ่งใหญ่มีสาธุชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
กาญจนบุรี กฟภ.ตรวจพบบ้านใช้กระแสไฟฟ้าผิดปกติ เข้าตรวจพบกำลังขุดบิทคอยน์ โดยลักลอบใช้ไฟฟ้าเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท
อัปเดตชีวิตล่าสุด “ครูส้ม” บูลลี่ “ป๋าเปรม” ลาออกจากราชการแล้ว
"สมาพันธ์คนงานรถไฟ" ยื่นนายกฯเร่งตัดสินใจอนาคต "รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน" เหตุประมูลเกือบ 5 ปีไร้คืบหน้า
เปิด 2 เครื่องสำอางอันตราย ขายออนไลน์ว่อน พบมีสารปรอท-สเตียรอยด์ เช็กเลยเคยใช้ไหม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น