วันที่ 6 กรกฎาคม – พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานในพื้นที่จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการทางทหาร (ผบ.ศบท) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ จึงได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า พร้อมสั่งการให้ทุกเหล่าทัพให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการร้องขอ โดยการปฏิบัติการช่วยเหลือในวันนี้ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์บัญชาการเหล่าทัพ ปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญในการให้ความช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้ ดังนี้
– กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สนับสนุนรถเคมีโฟม 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน รถบรรทุกน้ำ 4,000 ลิตร จำนวน 2 คัน และเครื่องตรวจวัดสารเคมี จำนวน 2 ชุด พร้อมทั้งให้การสนับสนุนเฝ้าระวังไฟ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ขณะนี้เป็นการฉีดน้ำและโฟมระบายความร้อนเพื่อลดอุณหภูมิ
– กองทัพบกโดยกองพันทหารราบ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน จัดเตรียมกำลังพล จำนวน 100 นาย และรถบรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 10 คัน พร้อมส่งเข้าไปเสริมการควบคุมดูแลพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้จัดชุดรักษาความปลอดภัย จำนวน 3 จุด, จัดกำลังพลสนับสนุนมูลนิธิในการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น, จัดระเบียบการจราจร ลานจอดรถ และศูนย์อพยพประชาชน, จัดเจ้าหน้าที่จิตอาสาในการแจกจ่ายสิ่งของพระราชทาน, จัดรถน้ำสนับสนุนรถดับเพลิงและน้ำให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่, พร้อมรถบรรทุก ขนาด 2 ½ ตัน แบบ FTS จำนวน 2 คัน เพื่อขนย้ายถังโฟมหรืออุปกรณ์ อื่น ๆ ตามร้องขอ และติดตามสถานการณ์พร้อมเข้าปฏิบัติการดูแลพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
-กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ และหน่วยบรรเทาสาธารณภัย โรงเรียนนายเรือ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนเมื่อได้รับการร้องขอ ได้แก่ รถดับเพลิง จำนวน 1 คัน, รถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน, รถพยาบาล จำนวน 1 คันพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน จำนวน 10 นาย นอกจากนี้ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ยังได้จัดชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR Team) เตรียมความพร้อมสนับสนุน โดยสามารถเข้าพื้นที่ได้ทันทีเมื่อได้รับการประสาน
– กองทัพอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพอากาศ ได้จัดเตรียมโฟมชนิด AR-AFFF 3% ผสมน้ำ จำนวน 70 ถัง พร้อมให้การสนับสนุนเมื่อได้รับการประสาน
พลตรี ธีรพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในภาพรวมยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังคงน่ากังวล และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สมุทรปราการได้เร่งประสานหารือกับทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในการพิจารณากำหนดพื้นที่ต่างๆ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสูงสุดในการอพยพของประชาชนที่อยู่ในรัศมีที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยจะทำการอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุดก่อน จากนั้นจึงจะมีการอพยพประชาชนในพื้นที่ที่มีเสี่ยงน้อยลงตามลำดับต่อไป ทั้งนี้กองทัพไทยขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากอาคารบ้านพักโดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการสูดดมสารพิษ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการในการบริหารสถานการณ์อย่างรอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ และพร้อมเคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้โดยเร็วที่สุดต่อไป