ครม.ไฟเขียว “สินเชื่ออิ่มใจ” ผ่านธ.ออมสิน เพิ่มสภาพคล่องร้านอาหาร

รมว.คลัง เผยครม. เห็นชอบมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ วงเงิน 2 พันล้านบาท ให้ธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นร้านจำหน่ายแบบถาวร เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านที่เปิดในห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอทำธุรกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ที่กลับมามีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข นำไปสู่การออกประกาศกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมไปถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการสั่งปิดสถานที่และระงับการให้บริการของสถานบริการต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ มีรายได้ลดลงและขาดสภาพคล่อง

วันนี้(6 กรกฎาคม 2564) คณะรัฐมนตรี(ครม.) จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มาตรการสินเชื่ออิ่มใจ วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นร้านจำหน่ายแบบถาวร เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เปิดในห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ ภัตตาคาร ร้านที่มีลักษณะเป็นบูธ เป็นต้น ด้วยหลักเกณฑ์ที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อปกติวงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุด 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี (Effective Rate) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก รับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นร้านแบบเคลื่อนที่ได้ เช่น หาบเร่ แผงลอย รถเข็น เป็นต้น สามารถเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนของรัฐบาลที่มีอยู่ ได้แก่ มาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 10,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก รับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือโครงการอื่น ๆ ที่ธนาคารออมสินดำเนินการเอง เช่น สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อ Street Food เป็นต้น

กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนและผู้ประกอบการให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง และเพียงพอ โดยได้มีการติดตามผลการดำเนินมาตรการอยู่เป็นระยะ รวมถึงพิจารณาข้อจำกัด ปัญหาอุปสรรคของการดำเนินมาตรการ และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด เพื่อปรับปรุงและออกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อดูแลประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงทีต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่าฯชลบุรี พาเข้าวัด วันธรรมสวนะ สืบสานพระพุทธศาสนา ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและสร้างสังคมคุณธรรมอย่างยั่งยืน
ผอ.เทคนิคระยอง นำผู้บริหาร ครู และ ผู้ปกครอง เยี่ยมชมนิเทศการเรียนการสอน และ ความเป็นอยู่ นศ. สาธารณรัฐประชาชนจีน
ปชป.ดีเดย์ 18 ก.ย. ถกด่วนกก.บห.เคาะวันเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เสียงหนุน "อภิสิทธิ์" รีเทิร์นมาแรง
แห่ซูมโต๊ะไม้สัก "เสธเบิร์ด" พาลุย ฐานปฏิบัติการเขมร หลังทหารไทยยึดได้บนภูมะเขือ ลั่นขอให้โชคดี
"สาโรจน์" ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. แล้ว
สมุทรปราการ เพื่อนเมาบุกมุดมุ้งหวังลวนลามเมียเพื่อน ผัวเห็นตีกันชุลมุนเจ็บ 2 ราย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​