พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จากบ้านพัก ใน รอ.1 รอ เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ที่นายกรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มที่ต้องกักตัวเฝ้าดูอาการหลังพบว่านายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ที่มาขอถ่ายภาพคู่กับนายกรัฐมนตรี ในงานเปิดโครงการภูเก็ตเซ็นด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ติดเชื้อ โควิด-19 แม้ว่าผลตรวจเชื้อนายกรัฐมนตรีจะออกมาเป็นลบก็ตาม แต่ก็ต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการสาธารณสุข เพราะถือว่าสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูง ดังนั้นจึงถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีต้องวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก เบื้องต้นนายกฯ จะกักตัวประมาณ 7 วัน เนื่องจากตามระเบียบมาตรการคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ 2 เข็มแล้ว และประกอบกับนายกฯ มีผลตรวจเป็นลบให้เฝ้าดูอาการตนเองเบื้องต้น 7 วัน ซึ่งจะมีการตรวจหาเชื้ออีกครั้งในวันศุกร์ ที่ 9 ก.ค.นี้
มีรายงานว่า ที่บ้านพักของนายกรัฐมนตรีได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโดยรอบ ขณะที่นายกรัฐมนตรีแยกตัวออกจากครอบครัวโดยใช้ห้องทำงานในบ้านพัก ส่วนคณะทำงานและชุดรักษาความปลอดภัยก็ทำการแยกตัว ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัด
ในส่วนของรัฐมนตรีที่เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีประกอบด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) ซึ่งวันเดียวกันนี้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า พักก่อน โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีหรือไม่พล.อ.ณัฐพลได้แต่ยิ้มๆแค่ไม่ได้กล่าวตอบว่าอะไร
ส่วนวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีที่น่าสนใจยังคงเป็นวาระติดตามสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะในวันนี้คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติจ่ายเงินเยียวยา 6 จังหวัด พื้นที่สีแดง ตามคำสั่งฉบับที่ 25 เยียวยาให้ลูกจ้าง 2,000 บาท/คน นายจ้าง 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คนแต่ไม่เกิน 200 คน รวมวงเงิน 5,000 ล้านบาท หลังจากสัปดาห์ที่แล้วได้เห็นชอบในหลักการไปหลังจากนี้จะเริ่มในมาตรการเยียวยาต่อไป พร้อมจับตา ครม.อนุมัติลงนามสัญญาซื้อวัคซีนป้องกันโควิด -19 ยี่ห้อไฟเซอร์ Pfizer จำนวน 20 ล้านโดส เพื่อนำเข้าประเทศไทย ภายในไตรมาส 4 หรือภายในเดือนตุลาคม 2564 ภายหลังอัยการสูงสุดตรวจสัญญาซื้อขายแล้ว
กระทรวงการต่างประเทศ ให้ครม.รับทราบรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนขอแต่งตั้งนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และรับทราบสรุปผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การบริหารและการจัดการภาวะแล้ง ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา