RT และ AFP รายงานว่าระหว่างการกล่าวปาฐกถาเปิดประชุมกลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ (BRICS) ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีสีกล่าวตำหนิสหรัฐและกลุ่มพันธมิตรอียูว่ากำลังใช้เศรษฐกิจโลกเป็นอาวุธทางการเมืองในการทำร้ายหรือคว่ำบาตรรัสเซีย แต่มาตรการคว่ำบาตรเปรียบได้กับบูมเมอแรงและดาบสองคม ซึ่งไม่เพียงทำร้ายรัสเซียเท่านั้น แต่กำลังสร้างความหายนะให้กับผุ้คนทั่วโลก รวมทั้งชาติตะวันตกเอง ทั้งนี้ผู้นำจีนได้อ้างอิงถึงสงครามในยุคศตวรรษที่ 20 โดยกล่าวว่าประวัติศาสตร์มีไว้เพื่อจดจำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต และกรณียูเครนก็ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเตือนใจสำหรับชาวโลกให้ฉุกคิดว่าการแสวงหาอำนาจและการขยายความร่วมมือทางทหารเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตัวเอง โดยไม่มองว่าจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นหรือไม่ ในที่สุดแล้วจะส่งผลร้ายต่อตัวเอง
มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยสหรัฐและอียูได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อชาติตะวันตก โดยทำให้ราคาพลังงานและอาหารพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดวิกฤติเงินเฟ้อ ขณะที่หลายประเทศทั่วยุโรปต้องดิ้นรนหาแหล่งพลังงานใหม่เพื่อทดแทนพลังงานจากรัสเซีย ท่ามกลางฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน
ที่ประชุมกลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ ไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มประเทศบริกส์ คือบราซิล
รัสเซีย, อินเดีย, จีนและแอฟริกาใต้ แต่ยังมีผู้แทนอีก 13 ชาติที่เข้าร่วม รวมทั้งไทย, อินโดนีเซีย, คาซักสถานและอาร์เจนตินา
ขณะที่การประชุมสุดยอดผู้นำ 4 ชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 14 มีขึ้นในวันนี้ โดย จะมีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยจะเป็นการประชุมแบบออนไลน์