No data was found

ธอส.ออก 7 มาตรการ ช่วยลูกค้าที่รับผลกระทบเหตุระเบิด-เพลิงไหม้ โรงงานย่านกิ่งแก้ว

กดติดตาม TOP NEWS

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบเหตุระเบิด-เพลิงไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว ด้วย 7 มาตรการ ภายใต้กรอบวงเงินรวม 500 ล้านบาท ทั้งพักหนี้ ลดดอกเบี้ย ให้กู้ซ่อม และจ่ายค่าสินไหม

วันที่5 ก.ค. 2564 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด-เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วย

1) ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 1 ปี

2) ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ ดอกเบี้ยปีแรก 1% ต่อปี

3) ลูกหนี้ที่หลักประกันเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 0% ต่อปี 4 เดือน ไม่ต้องชำระเงินงวด 4 เดือนแรก

4) ลูกหนี้ที่มีผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 1% ต่อปี

5) กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี

6) ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของอาคาร

7) ลูกค้าที่หลักประกันได้รับความเสียหาย อาทิ กระจกแตก เกิดรอยร้าวตามตัวอาคาร ให้แจ้งเคลมความเสียหายได้โดยพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้ตามมูลค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินทุนประกันอาคาร ติดต่อขอใช้มาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2564

 

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (5 ก.ค.64)  ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงเกิดความเสียหายและยังอาจส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพหรือรายได้ของประชาชน ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงได้จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด-เพลิงไหม้ โรงงานย่านกิ่งแก้ว” สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านอยู่อาศัยหรือผลกระทบด้านรายได้จากเหตุการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ภายใต้กรอบวงเงินรวมของโครงการ 500 ล้านบาท ผ่าน 7 มาตรการเร่งด่วน โดยพิจารณาตามระดับความเสียหาย ซึ่งมีรายละเอียดประกอบด้วย

 

มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. ที่หลักประกัน (ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร)หรือรายได้จากการประกอบอาชีพได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี และเมื่อผ่อนชำระครบแล้วให้กลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิ์เดิมของลูกค้าก่อนใช้มาตรการ

 

มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าเดิมของ ธอส. หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายและต้องการซ่อมแซม สามารถขอกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม่ เพื่อซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายหรือปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิมที่ได้รับความเสียหาย คิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1% ต่อปี ปีที่ 2-3 เท่ากับ 3% ต่อปี และปีที่ 4 เป็นต้นไป กรณีลูกค้าสวัสดิการคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี และลูกค้ารายย่อย คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี

 

มาตรการที่ 3 ลูกหนี้ที่ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน หรือมีสถานะอยู่ระหว่างการประนอมหนี้ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% ในช่วง 4 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวดนาน 4 เดือน เดือนที่ 5-12 อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี  โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกเพิ่มอีก 100 บาท และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิ์เดิมก่อนใช้มาตรการ

 

มาตรการที่ 4 ลูกหนี้ที่ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน หรือมีสถานะอยู่ระหว่างการประนอมหนี้ ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ย เท่ากับ 1% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกเพิ่มอีก 100 บาท และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิ์เดิมก่อนใช้มาตรการ

 

มาตรการที่ 5 ลูกหนี้ที่ค้างชำระเงินงวดติดต่อกันมากกว่า 3 เดือน หรือมีสถานะอยู่ระหว่างการประนอมหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือตามสัญญากู้

 

มาตรการที่ 6 ลูกหนี้ที่ค้างชำระเงินงวดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือมีสถานะอยู่ระหว่างการประนอมหนี้ กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น

 

มาตรการที่ 7 ลูกค้าที่หลักประกันได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ กระจกแตก เกิดรอยร้าว ตามตัวอาคาร หรืออื่น ๆ สามารถแจ้งเคลมความเสียหายได้ โดยพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้ตามมูลค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินทุนประกันอาคาร สามารถติดต่อมาที่ส่วนธุรกรรมประกันภัย ธอส. โทร. 0-2202-1385 ถึง 89 หรือ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด(มหาชน) โทร. 0-2631-1311 ต่อ 5312, 5340 พร้อมแจ้ง ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัญชีเงินกู้ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นบริษัทประกันภัยจะติดต่อนัดหมายกับลูกค้าเพื่อเข้าสำรวจความเสียหายและพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้แก่ลูกค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบโดยเร็วต่อไป

 

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศหรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์(Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วงจรปิดจับชัด ลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" ปลดป้ายหน้าห้องทำงาน พร้อมขนของออกจากสำนักงาน
ร้อนทะลุ 42 องศาฯ "ควาญช้าง" เฝ้าระวัง อาบน้ำให้วันละ 8 ครั้ง กังวลช้างหงุดหงิด คลั่ง
"สันติสุข" ชี้ทำทีวีไม่ง่าย แบกรับต้นทุน ขอบคุณแฟนข่าว เจ้าของสินค้า นำพา Top News ทำหน้าที่สื่อต่อไป
บุกจับ "แก๊งพระ" ลอบล่าสัตว์ป่าภูเขียว พบหลักฐานแน่น ช็อกหนักมีรองเจ้าคณะจังหวัดร่วมด้วย
โฆษกภูมิใจไทย แจง "บี พุฒิพงษ์" ค้านดิจิทัล วอลเล็ต เป็นเรื่องส่วนตัว เผย 1 ปีแล้วไม่เข้าร่วมกิจกรรมพรรค
ศาลพิพากษา ลงโทษปรับหนักผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อนคนละ 8.6 ล้านบาท
อุกอาจ หนุ่ม Messenger ติดพนันออนไลน์ กระชากสร้อยต่อหน้ารถสายตรวจ สุดท้ายไม่รอด
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน เตือน 33 จว. มีฝน
แม่ช็อค ติดต่อลูกชายไม่ได้ พบกลายเป็นศพ รมควันคาห้องพัก
หนุ่มชัยภูมิลูกอีสาน แรงงานไทยหนีภัยสงคราม กลับมาปลูกองุ่นขาย รายได้งาม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น