“ครม.” เตรียมเคาะ “มาตรการลดค่าครองชีพ”รอบใหม่ ช่วยประชาชน

การประชุมครม. วันนี้ เตรียมเคาะ “มาตรการลดค่าครองชีพ” รอบใหม่ และแนวทางการช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง ทั้งการต่ออายุมาตรการเดิม และเพิ่มมาตรการใหม่

วันที่ 21 มิ.ย.65.-การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีวาระสำคัญเตรียมเสนอให้กับที่ประชุมพิจารณา “มาตรการลดค่าครองชีพ” รอบใหม่ และแนวทางการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง หลังจากในช่วงสัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือและได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวแล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพรอบใหม่ที่จะเสนอให้ครม.พิจารณานั้น เบื้องต้นมี การต่อมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดอายุในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2565 ซึ่งเดิมมีอยู่ 10 มาตรการ แต่ในการต่ออายุอาจนำเสนอเข้ามาเพียงบางมาตรการเท่านั้น และบางมาตรการอาจไม่ทำต่อ เช่น การลดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม รวมทั้งยังมีมาตรการใหม่เสนอเข้ามาด้วย

ทั้งนี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า มาตรการต่าง ๆ จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนมาตรการเดิมหมดอายุ กำหนดระยะเวลาการทำโครงการเอาไว้ รวมระยะเวลา 3 เดือน กรกฎาคม – กันยายน 2565 มีรายละเอียดของมาตรการต่าง ๆ แยกเป็นดังนี้

สำหรับมาตรการต่ออายุมาตรการเดิม คือ การตรึงราคาค่าก๊าซ NGV สำหรับแท็กซี่ การให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การให้ความช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบกการให้ส่วนลดค่า FT ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย (กำลังพิจารณา)

ส่วนมาตรการใหม่ ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดอยู่ที่ 1.4 บาทต่อลิตร ขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมันในการขอให้นำส่งกำไรส่วนต่างที่เกิดจากการกลั่นน้ำมัน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2565 คาดว่าจะเก็บเงินเข้ากองทุนได้ประมาณเดือนละ 6,000 – 7,000 ล้านบาท แยกเป็น กลุ่มน้ำมันดีเซล จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 5,000 – 6,000 ล้านบาท จะขอความร่วมมือให้ส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุน กลุ่มน้ำมันเบนซิน จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท มาลดราคาให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินในทันที คาดว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มได้ประมาณลิตรละ 1 บาท ขอความร่วมมือโรงแยกก๊าซที่มีต้นทุน LPG ที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบในภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีกำไรส่วนเกิน ซึ่งจะดึงเงินกำไรส่วนเกินออกมา 50% เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะได้เงินเข้ากองทุนอีกเดือนละ 1,500 ล้านบาทสนับสนุนการท่องเที่ยว เอกชนนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว อบรม สัมมนา จัดงาน ในเมืองหลักหักภาษีได้ 1.5 เท่า เมืองรองหักภาษีได้ 2 เท่า (ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2565)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อุทยานฯเขาใหญ่" รู้ตัวแล้วหนุ่มถือมีดบุกประชิดช้างป่า ลุยเอาผิด หลังคลิปว่อนโซเชียล
“พุทธิพงษ์” จี้ “รบ.” หยุดกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เร่งมาตรการช่วยปชช. ลั่นปากท้องคนสำคัญกว่าบ่อน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) กุ้ยโจวพบ 'วังคริสตัล'อายุ 480 ล้านปีซุกซ่อนใต้พิภพ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนแข่ง 'วิ่งส้นสูง' นานาชาติ เด็กไทยร่วมประชันฝีเท้า
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนฉลอง 2,500 ปี คลองใหญ่แห่งปักกิ่ง
ระทึก! "น้องหม่ำ" ลิงเลี้ยงหลุดกรง ไล่กัดเด็ก 2 คน หน้า-แขน-หัวโดนขย้ำเย็บ 14 เข็ม
สุดยื้อ เหยื่อปูนร่วงใส่รถพระราม 2 กระจกแตกยับ เสียชีวิตแล้ว
"อุตุฯ" เตือน 38 จังหวัด รับมือฝนถล่ม-ลมกระโชกแรง กทม.ร้อยละ 30 ของพื้นที่
เที่ยวบินครม.สัญจรระทึก เจออากาศแปรปรวนหนักลงจอดไม่ได้ ต้องบินกลับพิษณุโลก
“พีระพันธุ์” หารือ “รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม” ญี่ปุ่น ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น