สคบ.ลุยตรวจ “ร้านดารุมะ” คูปองทิพย์ พบเจ้าของเผ่นนอกประเทศแล้ว

รองเลขาฯ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านดารุมะ จำหน่วยคูปองซูซิทิพย์ มั่นใจเจ้าของมีเจตนาฉ้อโกง รู้ตัวธุรกิจไปไม่รอด ออกโปรโมชั่นเกินจริง ก่อนเชิดเงินหนีออกนอกประเทศ

พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ตรวจสอบร้าน ดารุมะซูชิ บุฟเฟ่ต์แซลม่อน ที่ปิดร้านกะทันหัน แต่ขายคูปองให้ลูกค้ากว่าแสนใบ แต่ไม่สามารถใช้บริการได้

จากการตรวจสอบ ร้านดารุมะ สาขาเดอะแจส รามอินทรา พบว่า ร้านปิดเหมือนสาขาอื่นๆ โดยหน้าร้าน เขียนป้ายว่า ขอภัยค่ะ ปิดบริการ โดยทางผู้ให้เช่าสถานที่ ให้ข้อมูลว่า ทางร้านค้างค่าเช่า 2 เดือนแล้วก็หายไป ซึ่งปกติร้านนี้ขายดีมาก ลูกค้ามารอเต็มหน้าร้าน แต่เมื่อวันศุกร์ช่วงเช้า ร้านเปิดก็มีลูกค้ามารอ จนกระทั่งรู้ข่าวว่าร้านปิดบริการ ทางสถานที่ให้เช่าก็เพิ่งทราบข่าววันเดียวกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

พ.ต.อ.ประทีป ระบุว่า พฤติกรรมของเจ้าของร้าน ส่อเจตนาฉ้อโกง เนื่องจากเจ้าของร้าน รู้ตัวอยู่แล้วว่า ธุรกิจไม่ดี จึงจัดโปรโมทชั่นเร่งระดมหาลูกค้า ยิ่งซื้อเยอะจะได้ราคาถูก และพึ่งทำได้ไม่นาน พอได้เงินก็ไป โดยทางสคบ. ได้ออกหนังสือเรียก นายเมธา ชลิงสุข เจ้าของกิจการ มาให้ข้อมูลแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า นายเมธา เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว

ขณะเดียวกัน สคบ. ยังตรวจพบว่า ช่วงแรกเจ้าของร้าน ประกอบธุรกิจอาหารจริง แต่ประสบปัญหาหนี้สิน จึงจัดโปรโมชั่น แต่ราคาไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ต้นทุนสูงแต่ขายถูก และยังมีหนี้สินจากซัพพลายเออร์ และค้างค่าเช่าที่ จึงระดมจัดโปร 199 กินไม่อั้น และพึ่งขายได้ไม่นาน การกระทำนี้ คือ เจตนาฉ้อโกง ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบ ต้องแยกเป็น 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อคูปอง 2.กลุ่มพนักงานในร้าน 3.แฟรนไชส์ 4.ซัพพลายเออร์ และ 5.กลุ่มเจ้าของสถานที่

โดยกรณีนี้การซื้อขายคูปองทางแอพพลิเคชั่น หากปิดแอพฯไปก็จะไม่มีหลักฐาน จึงขอให้ผู้เสียหายปริ้นเอกสารไว้ เพื่อแสดงเป็นหลักฐานดำเนินคดีได้ หลังจากนี้ทาง สคบ.จะหามาตราการในการควบคุมดูแล กลุ่มผู้ประกอบการที่จัดโปรโมทชั่นแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และให้ประชาชนสังเกตุความผิดปกติ ว่า โปรโมชั่นราคาถูกเกินไปหรือไม่ ราคาเป็นแรงจูงใจ จ่ายก่อน บริการทีหลัง ควรดูรายละเอียดให้ดี

ขณะที่กรณีกลุ่มผู้ค้าที่กดคูปองมาขายต่ออีกครั้ง ตามนิติกรรมสัญญา คนที่รับผิดชอบโดยตรง คือ คนที่กดคูปองมาขาย แต่เรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง รวมทั้งผู้ซื้อแฟรนไชส์ด้วย ว่ารู้เห็นหรือไม่ และเส้นทางการเงิน การซื้อคูปอง เงินเข้าบริษัทโดยตรง หรือ ผ่านสาขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น