เปิดใจ “พี่ชาย” เหยื่อฆ่า 4 ศพไต้หวัน เข้ายื่นหลักฐานต่อกองปราบฯ

พี่ชายเหยื่อฆ่า 4 ศพที่ไต้หวัน เข้ายื่นหลักฐานต่อกองปราบฯ พร้อมโชว์คลิปเสียงการพูดคุยของผุ้ต้องสงสัย กับแรงงานไทยอีกคน ส่วนชบวนเหตุยังปักใจเชื่อมาจากปัญหาเรื่องเงินและหนี้สิน

จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ติดตามจับกุม นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยายัดท้ายรถยนต์หรูที่ไต้หวัน ซึ่งฝ่ายหญิงอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ลูกแฝดในท้อง รวมเป็น 4 ศพ ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทย ตามที่มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าคดีดังกล่าวล่าสุด นายยิ่งยศ แซ่หลี่ อายุ 37 ปี พี่ชายของ น.ส.พจนีย์ ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อนำพยานหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม โดยเฉพาะคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นายสันติ ผู้ต้องหากับแรงงานไทยที่ไปทำงานไต้หวันคนหนึ่ง ซึ่งมีความยาวประมาณ 16 นาที มาเป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดีดังกล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าให้ปากคำ นายยิ่งยศ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนนั้น เนื่องจากก่อนหน้าได้มีพลเมืองดีส่งหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของน้องสาวมาให้ตนเอง เป็นคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายสันติ กับแรงงานไทยคนดังกล่าว ซึ่งรายละเอียดบทสนทนาภายในคลิปเสียง นายสันติ ผู้ต้องหา มีการพูดพาดพิงน้องสาวตนเอง ในลักษณะใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย อ้างว่าเป็นมาเฟีย หรือ คนสั่งการ เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย อาทิ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการยาเสพติด และขบวนการค้ามนุษย์แรงงานข้ามชาติ จำเป็นต้องฆ่า เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ยืนยันว่า สิ่งที่ นายสันติ พูดออกมาเป็นการใส่ร้าย ปรุงแต่งขึ้นมาไม่เป็นความจริง รวมถึงตัวนายสันติ ก็เป็นผู้บันทึกคลิปเสียงนี้ขึ้นมาด้วยตนเอง ส่อเจตนาให้เห็นว่า เป็นการจงใจสร้างหลักฐานชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง

นายยิ่งยศ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาครอบครัวของตนเองกับนายสันติ สนิทสนมกันมาก รักเหมือนเป็นคนในครอบครัว ช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะมาทำแบบนี้กับคนที่เคยมีพระคุณ อยากรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ส่วนตัวเชื่อว่า สาเหตุการลงมือสังหาร น่าจะมาจากเรื่องเงินทอง เนื่องจาก นายสันติ มีหนี้สินรวมกว่า 20 ล้านบาท และยังเคยยืมเงินและทองคำ 15 บาท ของน้องสาว เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พี่ชายผู้เสียชีวิต ยังยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยมีความคิดตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 6 หลัก หากสามารถติดตามจับกุม หรือ แจ้งเบาะแสของ นายสันติ จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น เพราะต้องขอหารือกับผู้ใหญ่ถึงความเหมาะสมก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ร่วมขับเคลื่อน “120 วัน วาระพืชกระท่อม” สู่พื้นที่ปลอดสิ่งเสพติด
"บช.ภ.2 " ระดมกำลัง ตร.ควบคุมฝูงชนรับมือ "ม็อบเขมร" หลังพบความเคลื่อนไหวทยอยรวมตัวเตรียมป่วนอีกรอบ
“บิ๊กเล็ก” ซัด “ฮุน มาเนต” ปมเขมรบุกรื้อลวดหนาม แต่ยื่นประท้วงไทย ย้อนกลับวางทุ่นระเบิดแรงกว่า ลั่นจากนี้ใครรุกล้ำ ดำเนินการตามกม.
ศักดินัย สส.ตราด อภิปรายจี้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาเขมรรุกล้ำ 17 จุด
อบจ.สงขลา จัดทำแผนกองทุนฟื้นฟูฯ ปี 69 ตอบโจทย์พื้นที่
โคราชปิ๊งไอเดียสุขภาพตาเด็ก ป.1–6 กว่า 5 พันคนเข้าคัดกรอง เจอผิดปกติ 500 คน ได้แว่นใหม่เสริมการเรียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​