No data was found

นายก หารือทูตสหภาพยุโรปร่วมฟื้นฟูศก.หลังโควิด

กดติดตาม TOP NEWS

นายกรัฐมนตรี หารือเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป เน้นย้ำการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแนวทางเศรษฐกิจ BCG เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 2 กรกฎาคม – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง นายปีร์กกา ตาปีโอลา (H.E. Mr. Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่  ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหภาพยุโรป รวมทั้งมีส่วนผลักดันในการปลดใบเหลืองอุตสาหกรรมการประมงของไทย และชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองไทยแก่สมาชิกสหภาพยุโรปจนนำไปสู่การเพิ่มพูนความสัมพันธ์ พร้อมแสดงความยินดีที่มีการพัฒนาในด้านความร่วมมือ ทั้งการออกยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (FTA) และกรอบความตกลงเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Partnership and Cooperation Agreement : PCA) ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่น ไทยมุ่งหวังว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะบรรลุผลโดยเร็ว และนำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ระหว่างกัน

โดย เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ยินดีที่ไทยและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและครอบคลุมในทุกมิติ โดยสหภาพยุโรปยืนยันจะยังคงสานต่อความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง การค้า และการลงทุนอย่างเสรี ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ได้ระบุว่าไทยยังคงจัดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยของสหภาพยุโรป พร้อมหวังว่าการฉีดวัคซีนของไทยจะครอบคลุมประชากรไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในไทยโดยเร็ว ซึ่งพร้อมสนับสนุนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ควรผลักดันและขยายความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนอย่างเสรีและเป็นประโยชน์ต่อกันเพื่อเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยและสหภาพยุโรปยึดมั่นค่านิยมเดียวกันในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะสามารถเชื่อมโยงแผนปฏิรูปยุโรปสีเขียว (European Green Deal – EGD) ที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2593 กับแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ของไทย รวมทั้งยินดีร่วมมือด้านการวิจัยและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจที่เน้นนวัตกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนให้สหภาพยุโรปขยายการลงทุนในไทยและถ่ายทอดนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) และการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสอดคล้องกับนโยบาย Thailand+1 ของไทย

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองการบริหารราชการดำเนินนโยบายของไทยในหลายประเด็น โดยนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย โดยเน้นย้ำว่าไทยมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลตามรัฐธรรมนูญ และฝ่ายค้านสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญได้อย่างเสรี รวมทั้งประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และในการชุมนุมประท้วงอย่างสันติและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย รัฐบาลไทยมีความจริงใจในการรับฟัง/แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุม

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ไทยและสหภาพยุโรปยินดีร่วมมือกันเพื่อการพัฒนาและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยต้องการให้ทุกฝ่ายในเมียนมา ใช้ความอดทนอดกลั้น และหยุดการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน รวมทั้งสนับสนุนแนวคิด D4D และฉันทามติ 5 ข้อ ของอาเซียน เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขและเสถียรภาพในเมียนมา พร้อมเน้นย้ำว่าไทยยึดหลักการทางมนุษยธรรมมาโดยตลอด ด้วยประสบการณ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบและไม่มีการส่งกลับผู้หนีภัยความไม่สงบโดยไม่สมัครใจ ด้านเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ เชื่อมั่นว่าไทยจะสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างสันติ

 

ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป โดยต่างยินดีที่อาเซียนและสหภาพยุโรปได้ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ด้วยการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างสองภูมิภาคผ่านการยกระดับมาตรฐานการบิน และการบรรลุการเจรจา ASEAN-EU FTA นอกจากนี้ ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ยินดีที่สหภาพยุโรปสนับสนุนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกับศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue – ACSDSD)

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว รับมอบแก้วน้ำสำหรับเพาะกล้าไม้จาก บริษัท นิคเคสยามอลูมิเนียม จำกัด ร่วมโครงการ แก้วกล้า เพื่อเธอ
"นิพิฏฐ์" ฉะเดือด"ก่อแก้ว" หยามแรง คนพัทลุงไม่เอาแล้ว ซัดมีอคติเคยยื่นถอนประกันยุคแดงนปช.
"นายกฯ" ยันให้เกียรติแบงก์ชาติ ไม่มีปัญหาคิดต่างปมลดดอกเบี้ย เชื่อ "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์ธปท.ฟังจากเสียงปชช.
น้ำตก ‘เต๋อเทียน’ ที่พรมแดนจีน-เวียดนาม สวยตรึงใจ
เมียนมา ร้อนจัดทำผู้เสียชีวิตกว่าสิบคนทุกวัน
โซเชียลซัดเละ “ส.ศิวรักษ์” ดีเบต 2475 เน้นความเชื่อ ไร้ข้อมูล กล้ายกตัวเองเป็นปัญญาชนสยาม
อินโดนีเซีย เผชิญโคลนถล่มและน้ำท่วมครั้งใหญ่
รัสเซีย ขึ้นบัญชีผู้นำยูเครนเป็นอาชญากรที่ถูกหมายหัว
โซเชียลแซวยับ "พิธา" นำทีมก้าวไกล ร่วมงานสโมสรสันนิบาต ชีวิตสวนทางติ่งส้มหมิ่น จาบจ้วง สถาบันฯต้องนอนคุก
"อัษฎางค์" ย้อนชีวิต "โน้ส อุดม" โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า "พอเพียง" แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น