“ทิพานัน” ย้อน “ทักษิณ” ดูตัวเองทุจริตขโมยเงินชาติ

“ทิพานัน” ย้อน “ทักษิณ” กล้าพูดคนชอบขโมยเป็นผู้นำไม่ได้-กฎหมายไหนไม่เอื้อต้องแก้ วอนเลิกพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ฝากย้อนดูตัวเองทุจริตขโขยเงินชาติ-ประชาชนไปเท่าไร ยกปมสั่งเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ -แก้กม.ภาษีสรรพสามิตเอื้อค่ายมือถือ

วันที่ 8 มิถุนายน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.จอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาชื่นชมนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่ไลฟ์สดมีภาวะผู้นำ โปร่งใสเทียบตนเองตอนเป็นนายกฯ ว่า อ่านข่าวแล้วได้แต่สงสัยว่าท่านอดีตนายกรัฐมนตรีชื่นชมนายชัชชาติอย่างจริงใจ หรือมีเจตนาอื่นใด หรือจะเคลมว่าตนเองเป็นต้นแบบหรือโมเดลของนายชัชชาติกันแน่ จึงได้พูดในตอนหนึ่งว่าสมัยที่ตนเองเป็นนายกฯทำเวิร์กช็อปทำงานแล้วถ่ายทอดสดช่อง 11 ตลอดเวลา ซึ่งหากพี่น้องประชาชนจำกันได้ ก็คือแม้แต่ในช่วงที่นายทักษิณไม่ได้เป็นนายกฯ แต่มีสถานะเป็นนักโทษหลบหนีคดีแล้ว ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังมีการอนุญาตให้ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดสดนายทักษิณ เป็นประธานพิธีการแข่งขันมวยไทยมาจากฮ่องกง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยกับนายทักษิณ ที่ออกมาระบุว่า “ถ้าคิดอยากจะเป็นผู้นำแล้วเอาแต่คิดจะขโมยคนของคนอื่น เป็นผู้นำไม่ได้” เป็นความเห็นที่ถูกต้องที่สุด เพราะผู้ที่ขโมยของคนอื่น ไม่สมควรเป็นผู้นำประเทศจริงๆ ดังตัวอย่างที่นายทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตคอร์รัปชัน ที่เปรียบเหมือนเป็นขโมย ลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งนายจ้าง ก็คือประชาชนที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนให้นักการเมืองมาทำงานเพื่อประชาชน แต่กลับถูกกระทำการทุจริตเบียดบังเข้าพกเข้าห่อ และไม่ยอมรับผิดชอบเข้าสู่กระบวนยุติธรรมแต่กลับหลบหนีออกนอกประเทศ เช่น กรณีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim Bank อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลเมียนมาเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นเหตุให้นายทักษิณถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่น เนื่องจากภายหลังรัฐบาลเมียนมาได้ซื้อขายสินค้ากับบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) วงเงิน 400 ล้านบาท เป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุก 3 ปี

ส่วนที่นายทักษิณแสดงความเห็นให้มีการแก้ไขกติกาที่เป็นอุปสรรคติดขัดต่อการพัฒนาประเทศนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายทักษิณถนัดและคุ้นเคย ในการแก้ไขกติกา เหมือนกับกรณีที่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรีแก้ไขกฎหมายลดภาษีค่ายโทรศัพท์มือถือจาก 50% มาอยู่ที่ 10%และยังให้หักเงินที่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต ไม่ต้องนำมาคิดเป็นรายได้หรือคิดเป็นค่าสัมปทาน ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เห็นว่าปัญหาของเรื่องนี้ คือ การที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือชินคอร์ป เป็นคู่สัญญากับภาครัฐอยู่ และนายทักษิณ ก็ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวผ่านตัวแทนหรือนอมินี การแก้กฎหมายภาษีสรรพสามิต 2 ครั้งดังกล่าว จึงเป็นการให้ประโยชน์นายทักษิณและบริษัทโดยใช้อำนาจการเป็นนายกรัฐมนตรี จนทำให้รัฐสูญเสียรายได้ที่ควรจะได้ถึง 66,000 ล้านบาทซึ่งศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี

“นายทักษิน ชอบพูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น จนลืมมองตัวเองว่า รายได้ที่รัฐสูญเสียไปจากการแก้ไขกติกาของนายทักษิณ 66,000 ล้านบาทนี้ คือเงินที่นายทักษิณ ขโมยไปจากประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นตรรกะที่ว่า คิดอยากจะเป็นผู้นำแล้วเอาแต่คิดจะขโมยคนของคนอื่น เป็นผู้นำไม่ได้จึงเป็นความจริงดังตัวอย่างที่เห็นได้จากคดีของนายทักษิณเอง เป็นความเห็นที่สุดยอด”น.ส.ทิพานัน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อัศจรรย์! พระอาทิตย์ทรงกลด "กองทัพอากาศ" ทำพิธีอัญเชิญพระบรมรูป "ในหลวง รัชกาลที่ ๙" สู่ยอดดอยอินทนนท์ เคียงคู่พระมหาธาตุเจดีย์
"ภูมิธรรม" รับหนังสือร้องเรียน "บิ๊กเต่า" แล้ว พร้อมส่งผู้เกี่ยวข้องพิจารณา ไม่รู้โผแต่งตั้งตร.ไม่เป็นธรรมตรงไหน
"บิ๊กเต่า" สุดทน ยื่นหนังสือ ร้อง "ภูมิธรรม" โผแต่งตั้งตำรวจ ปี 68 ไม่เป็นธรรม ลั่นมีผลงานจับคดีสำคัญ แต่ไม่ได้รับพิจารณา
“บิ๊กกุ้ง” ลั่นเกษียณแค่ตำแหน่ง แต่ไม่เกษียณจากความเป็นคนไทย ย้ำหนักแน่นไม่ให้ใครรุกอธิปไตยชาติ
เตรียมจัดใหญ่ เทศกาลอาหาร “Gastronomy @ Prachuapkirikhan” ชูซอฟต์พาวเวอร์และส่งเสริมการท่องเที่ยว 2 หาดดัง
สาวโรงงานเลิกงานขี่มอไซค์ไปส่งเพื่อน ขากลับเกิดหลับในพุ่งชนบันไดสะพานลอยเจ็บ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​