นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยกรณีสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ขอให้รัฐบาลนำเข้าวัคซีน ชนิด mRNA เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อรับมือสายพันธุ์เดลต้า(อินเดีย) ว่า หลังจากที่เราลงนามเทอมชีท (Term sheet) ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในการเจรจาร่วมกับวัคซีนไฟเซอร์ ขั้นสุดท้าย เป็นการทำสัญญาซื้อขาย(DSA)
ซึ่งยังมีบางข้อความที่สำนักอัยการสูงสุดกำลังเร่งตรวจสอบอยู่ และเร่งให้กรมควบคุมโรคเจรจา เพื่อไม่ให้กระทบการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ตามเทอมชีทที่จะส่งให้ไทยในไตรมาส4 ดังนั้น วัคซีนไฟเซอร์ เป็นชนิด mRNA ที่มีโอกาสนำเข้าได้มากที่สุด ประมาณ 20 ล้านโดส โดยทางศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็กำลังศึกษาวัคซีนชนิด mRNA เช่นกัน
นายอนุทิน เปิดเผยอีกว่า การพิจารณาวัคซีนในประเทศไทย จะต้องผ่านความเห็นจากคณะกรรมการวิชาการวัคซีน ที่มี ศ.พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ รวมถึง นพ.ยง ภู่วรวรรณ เป็นคณะทำงานประชุมวางแนวทางเรื่องการใช้วัคซีนใด วิธีใด ห่างกันอย่างไร แล้วแจ้งมติมายัง สธ. เพื่อให้แพทย์ปฏิบัติตาม แม้แต่อธิบดีกรมการแพทย์จะฉีดวัคซีนตามใจตัวเอง หรือแพทย์จะฉีดตามความเชื่อส่วนตัวก็ไม่ได้ อีกทั้งหากคณะกรรมการฯ บอกว่า ต้องซื้อวัคซีนชนิดใดเพิ่ม ก็จะต้องไปเร่งนำเข้า ครม. หางบประมาณมาเพิ่มเติม และพยายามจัดหามาให้มากที่สุด
และเมื่อถามว่าวัคซีนชนิด mRNA ในปีนี้ ว่าจะได้รับสูงสุดที่ 20 ล้านโดสหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับปีนี้ ทางบริษัทไฟเซอร์ที่เจรจาร่วมกัน เขาระบุไว้ 20 ล้านโดส แต่เราก็ติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนทุกเจ้า เพื่อเตรียมไว้สำหรับปีหน้าให้รองรับสายพันธุ์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดที่ผลิตขึ้นมาครอบคลุมสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) และเดลต้า (อินเดีย) เพียงแต่ว่า ยังสามารถป้องกันเจ็บป่วยรุนแรง เสียชีวิตได้ วัคซีนทุกชนิดยังยืนอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ก็อยากประกาศคนหาย วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่เราก็เตรียมลงนามสัญญาเทอมชีท (Term sheet) แต่ก็ไม่สามารถติดต่อกับบริษัท แจนเซ่น ซีแลค จำกัด ได้ อันนี้เป็นความผิดเราหรือไม่ เพราะเราเร่งแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอาจเกิดปัญหา ซึ่งเราก็มีข้อมูลจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติในเรื่องนี้เช่นกัน มีคณะกรรมการวิชาการทางการแพทย์เตือนมา เราก็ต้องฟัง เพราะ เราจะไม่เอาประชาชนมาเป็นหนูทดลอง
“การฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัย เราต้องฟังคณะกรรมการวิชาการวัคซีน ซึ่ง สธ. ทำมาโดยตลอด นอกจากนั้น วัคซีนไข้หวัดใหญ่เอง ก็ต้องผ่านความเห็นคณะกรรมการฯ เช่นกัน ไม่มีการเอาอารมณ์มาตัดสินใจเรื่องวัคซีน ต้องมีที่ให้หลังพิง” นายอนุทิน กล่าว